กองทัพไทย ยืนยัน ดูแลความมั่นคง ปกป้องสถาบัน

กทม. 18 มี.ค. – กองบัญชาการกองทัพไทย จัดงานวันสถาปนาประจำปี 62 ยืนยัน จะดูแลความมั่นคงของรัฐปกป้องและเทิดทูนสถาบัน เพื่อผลประโยชน์ชาติ


พลเอก พรพิพัฒน์  เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานในการจัดงานวันสถาปนากองบัญชาการกองทัพไทย ประจำปี 2562 ณ กองบัญชาการกองทัพไทย กรุงเทพฯ เพื่อรำลึกถึงการก่อตั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2503 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2551 ได้มีการเปลี่ยนแปลงการจัดส่วนราชการของกระทรวงกลาโหม จาก กองบัญชาการทหารสูงสุด เป็น กองบัญชาการกองทัพไทย และยังคงให้ยึดถือวันที่ 16 มีนาคม ของทุกปีเป็นวันสถาปนากองบัญชาการกองทัพไทย มีผู้บัญชาการทหารสูงสุด จากอดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งสิ้น 33 คน

 กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นส่วนราชการขึ้นตรงต่อ “กองทัพไทย” ซึ่งมีหน้าที่ควบคุม อำนวยการ สั่งการ และกำกับดูแลส่วนราชการ ในกองทัพไทย ได้แก่ กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ โดยเป็นศูนย์กลางในการปฏิบัติการร่วมของทั้งสามเหล่าทัพ ซึ่งจำเป็นต้องสนธิขีดความสามารถอย่างประสานสอดคล้อง เพื่อชดเชยจุดอ่อนของกำลังอีกเหล่าทัพหนึ่ง เนื่องจากการปฏิบัติการ


ทางทหารในปัจจุบันและอนาคต ยากที่เหล่าทัพใดจะสามารถชนะในสนามรบได้โดยลำพังเพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ทำให้การรบเป็นไปด้วยความรวดเร็ว รุนแรง ครอบคลุมหลายมิติ และมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

การจัดงานในวันนี้ได้รับเกียรติจากผู้บังคับบัญชาในอดีตของกองบัญชาการกองทัพไทยมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีพิธีที่สำคัญประกอบด้วย พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอาคารกองบัญชาการกองทัพไทย พิธีสงฆ์ ณ บริเวณลานหน้าบุษบกประดิษฐาน

พระพุทธนวราชบพิตร และพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณบุคคลดีเด่นของส่วนราชการในกองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเสียสละ วิริยะ อุตสาหะ ตลอดมา


ทั้งนี้ กองบัญชาการกองทัพไทย ขอยืนยันความพร้อมในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดดำเนินการตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ในการดูแลความมั่นคงของรัฐ  ปกป้องและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รักษาผลประโยชน์ของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตลอดจนให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชน อันจะก่อให้เกิดความสงบสุขของประเทศชาติสืบไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ