แม่ขับเก๋งพาลูกเรียนพิเศษ ตัดหน้ารถไฟชนพังยับดับสลด 3 ศพ

สุราษฎร์ธานี 23 ก.พ.-สุดสลด!! แม่พาลูกสาววัยประถม 2 คน ไปเรียนพิเศษ ขับรถเก๋งข้ามทางรถไฟกระชั้นชิด ถูกขบวนม้าเหล็กพุ่งชนเต็มแรง จนเสียชีวิตทั้ง 3 คน


เมื่อเวลา 08.35 น.วันนี้ ( 23 ก.พ.)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเกิดเหตุรถไฟสปรินเตอร์ ขบวนที่ 41 กรุงเทพ- ยะลา ชนกับรถยนต์เก๋ง บริเวณจุดตัดทางรถไฟ ทางเข้า อบต.พุนพิน อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสัญญาณแจ้งเตือน แต่ไม่มีแผงกั้น


ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า ยาริส สีดำ ทะเบียน กร-8521 สุราษฎร์ธานี สภาพพังเสียหายยับ มีผู้ติดอยู่ภายในรถ 3 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างนานเกือบครึ่งชั่วโมง กว่าจะนำร่างออกมากได้ ในจำนวนดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตคาที่ 1 รายติดคาซากรถ ทราบชื่อคือ นางอมรรัตน์ ซั่วต๋อ อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 ม 1 ต.ศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นคนขับรถเก๋ง และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย คือ ด.ญ.ศรัณย์พร พัดทอง อายุ 7 ขวบ และ ด.ญ.สุพัชรา พัดทอง อายุ 4 ขวบ จนท.เร่งนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา รวมมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 3 ราย

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางอมรรัตน์ได้ขับรถพาลูกสาว 2 คน เพื่อจะไปเรียนพิเศษในตัวเมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นจุดตัดทางรถไฟ ซึ่งมีสัญญาณแจ้งเตือนแต่ไม่มีแผงกั้น นางอมรรัตน์อาจจะขับรถข้ามทางรถไฟอย่างกระชั้นชิดทันที โดยไม่ทันสังเกตว่ามีขบวนรถไฟกำลังแล่นมาพอดี จึงถูกรถไฟชนเต็มแรง จนทำให้เสียชีวิตพร้อมลูกสาวอีก 2 คนดังกล่าว 

หลังเกิดเหตุ นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเองเพื่อเตรียมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางแก้ไขปัญหา 


อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา เคยเกิดเหตุการณ์รถไฟชนรถกระบะ ตรงบริเวณจุดตัดรถไฟในพื้นที่ อ.ท่าชนะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 รายเป็นแม่-ลูก มาครั้งหนึ่งแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง