สุราษฎร์ธานี 3 ต.ค. – สวยงามตื่นตา อุโบสถเรือกลางน้ำ วัดทุ่งเซียด จ.สุราษฎร์ธานี สวยติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุที่เชื่อกันว่าเสด็จมาเอง
ที่เห็นอยู่นี้เป็นอุโบสถเรือกลางน้ำ ภายในวัดทุ่งเซียด ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็น 1 ใน 5 อุโบสถกลางน้ำที่สวยงามติดอันดับของประเทศไทย รูปแบบสถาปัตยกรรมยุคศรีวิชัย ก่อสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วสารทิศ ตรงกลางเป็นอุโบสถหลังใหญ่ ประดิษฐานพระประธานของวัด รายรอบด้วยศาลาจตุเทพและพระอรหันต์รูปต่างๆ ส่วนบริเวณทางเข้าอุโบสถ มีรูปปั้นพญานาค 4 ตน และช้าง สัตว์คู่บารมีและคู่บุญของพ่อท่านเซียด เจ้าอาวาสรูปแรกของวัดทุ่งเซียด และด้านหลังเป็นที่ตั้งของ “พระธาตุเจดีย์นาวาศรีวิชัย” ที่จำลองแบบมาจากพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร จ.สุราษฎร์ธานี สร้างขึ้นในปี 2556 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุสุริยัน จันทรา ร่วมกับพระบรมสารีริกธาตุที่ได้รับมอบจากพระสังฆราช จำนวน 9 องค์ และที่เดินทางไปรับจากประเทศอินเดียอีกจำนวนมาก
พระครูสารโสตถิคุณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งเซียด เล่าถึงที่มาของพระบรมสารีริกธาตุสุริยัน จันทรา ว่า เดิมทีเคยได้ยินเรื่องการเสด็จมาเองของพระบรมสารีริกธาตุ แต่เชื่อเพียงแค่ร้อยละ 50 จนเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2548 เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้น เมื่อเวลาใกล้รุ่ง ขณะกำลังจะตื่นเพื่อทำวัตรเช้า ได้ยินเสียงในหูดังกริ๊กเหมือนวัสดุตกเบาๆ เมื่อตื่นขึ้นมาใช้ไฟฉายส่อง พบผลึกแก้วทรงกลมขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.5 เซนติเมตร สีแวววาว วางอยู่ ซึ่งก็แปลกใจว่ามาอยู่ได้อย่างไร เพราะในกุฏิที่จำวัดเป็นห้องปิด จึงได้เก็บไว้
ในเวลาเดียวกันนั้น ชาวบ้านมาบอกว่า ในช่วงเช้ามืด เห็นแสงประหลาดที่บริเวณวัด เหมือนแสงสีเหลือง และมีแสงเหมือนลูกไฟพุ่งขึ้น จึงเชื่อว่าผลึกแก้วเล็กๆ องค์นี้เป็นพระสารีริกธาตุ หรือพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาเอง ซึ่งต่อมาก็ได้เกิดปรากฏการณ์ในลักษณะนี้อีกครั้ง เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2549 ครั้งนั้นมีเสียงคล้ายวัตถุขนาดเล็กตกเช่นเดิม เมื่อใช้ไฟส่องหาก็พบผลึกแก้วขนาดใกล้เคียงกันตกอยู่ในห้อง โดยชาวบ้านที่อยู่นอกวัด บอกว่า เห็นแสงสีขาวนวล จึงตั้งชื่อพระบรมสารีริกธาตุองค์แรกว่า พระสุริยัน และองค์ที่ 2 ชื่อ พระจันทรา ปัจจุบันนี้ถูกบรรจุไว้ภายใน “พระธาตุเจดีย์นาวาศรีวิชัย รวมกับพระบรมสารีริกธาตุที่มีผู้นำมาถวาย และเสด็จมาเอง กว่า 100 องค์ ผู้ที่สนใจสามารถมาสักการะ และชมความงดงามของอุโบสถกลางน้ำของวัดทุ่งเซียดแห่งนี้ได้. – สำนักข่าวไทย