ซิดนีย์ 8 ก.พ.- ทางการออสเตรเลียกำลังสอบสวนเรื่องมีคนพยายามเจาะระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐสภา แต่ยังไม่มีหลักฐานว่ามีข้อมูลถูกเข้าถึงหรือขโมยหรือไม่
นายโทนี สมิธ ประธานสภาผู้แทนราษฎรและนายสกอตต์ ไรอัน ประธานวุฒิสภาแถลงร่วมกันว่า ได้แจ้งให้สมาชิกสภาทุกคนเปลี่ยนรหัสผ่านเข้าคอมพิวเตอร์เพื่อเป็นการป้องกันล่วงหน้า ขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานว่าความพยายามดังกล่าวหวังมีอิทธิพลต่อกระบวนการรัฐสภา ต้องการขัดขวางหรือมีอิทธิพลต่อกระบวนการเลือกตั้งหรือกระบวนการทางการเมือง การแก้ไขเหตุโจมตีไซเบอร์เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา สภากำลังสอบสวนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้อง และยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าใครอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
นายเจมส์ เดอร์ เดอเรียน ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงนานาชาติศึกษา มหาวิทยาลัยซิดนีย์ให้ความเห็นว่า ความพยายามแฮกลักษณะนี้ต้องใช้ทรัพยากรเยอะมาก จึงน่าจะมีภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้อง และเมื่อดูว่าขณะนี้ใครไม่พอใจออสเตรเลียมากที่สุด ประเทศที่เข้าข่ายน่าสงสัยที่สุดก็มีเพียงจีนและรัสเซีย ความสัมพันธ์ออสเตรเลีย-จีนเสื่อมทรามลงตั้งแต่ปี 2560 เมื่อรัฐบาลสมัยนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล กล่าวหาจีนแทรกแซงกิจการภายใน และเมื่อไม่นานมานี้ออสเตรเลียได้ห้ามหัวเว่ยเทคโนโลยี บริษัทโทรคมนาคมของจีนวางอุปกรณ์ในเครือข่าย 5 จี (5G) ล่าสุดออสเตรเลียยกเลิกวีซ่าพำนักอาศัยของนักธุรกิจจีนที่เป็นผู้บริจาคทางการเมืองคนสำคัญโดยไม่ไห้เหตุผล แต่มีข่าวว่าเขาพัวพันกับผลประโยชน์จีน ส่วนความสัมพันธ์กับรัสเซียเสื่อมทรามลงตั้งแต่เครื่องบินสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์เที่ยวบิน MH17 ถูกขีปนาวุธของรัสเซียยิงตกในพื้นที่กลุ่มต่อต้านรัฐบาลยูเครนในปี 2557 มีชาวออสเตรเลียจำนวนหนึ่งอยู่บนเที่ยวบินนั้น.- สำนักข่าวไทย