ไทย-ออสเตรเลีย กระชับความสัมพันธ์ทางการค้า

เปรู 16 พ.ย.-รมว.พาณิชย์ หารือทวิภาคี รัฐมนตรีด้านเกษตรฯ และรัฐมนตรีด้านธุรกิจขนาดเล็กของออสเตรเลีย กระชับความสัมพันธ์ทางการค้า คาดปี 2568 การค้าไทย-ออสเตรเลีย มีโอกาสพุ่งสูงขึ้น

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือทวิภาคีกับ นางสาวจูลี่ คอลลินส์ รัฐมนตรีด้านเกษตร ประมง และป่าไม้ และรัฐมนตรีด้านธุรกิจขนาดเล็กของออสเตรเลีย เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า ซึ่งในปี 2568 ความตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย (TAFTA) จะครบรอบ 20 ปี ความตกลงการค้าเสรีดังกล่าว มีบทบาทสำคัญที่ทำให้การค้าสองฝ่ายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยคาดว่าในปี 2568 การค้าไทย-ออสเตรเลียมีโอกาสพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากจะไม่มีการเก็บภาษีนำเข้าของทั้งสองฝ่ายแล้วนอกจากนี้ ไทยและออสเตรเลียยังมีแผนที่จะจัดประชุมคณะกรรมมาธิการร่วม FTA ไทย-ออสเตรเลีย ในปีหน้า เพื่อติดตามการดำเนินการด้านการค้าสินค้า การค้าบริการ และการลงทุนระหว่างกัน  


โดยในการหารือครั้งนี้ไทยยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมประชุมยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1 ระหว่างไทยและออสเตรเลีย ไปเมื่อปลายเดือน ก.ย.67 ที่กรุงเทพฯ ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จและยังได้ร่วมกันขับเคลื่อนประเด็นต่างๆ ร่วมกัน ซึ่งครอบคลุมสาขาความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจไทย-ออสเตรเลีย (เซก้า) อาทิ ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีการเกษตร การแลกเปลี่ยนข้อมูลกฎระเบียบ ข้อบังคับ และมาตรฐานการส่งออกสินค้าเกษตรไทยไปยังออสเตรเลีย การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานสะอาด การค้าดิจิทัล และการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยโดยเฉพาะ SMEs เพื่อให้เป็นกลไกที่เข้มแข็งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ซึ่งทั้งหมดนี้ ล้วนแล้วแต่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการยกระดับผู้ประกอบการและนักลงทุนไทย เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าการลงทุนในตลาดต่างประเทศ ทั้งนี้ ออสเตรเลียเป็นตลาดส่งออกอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยอันดับต้น ๆ โดยไทยขอให้ออสเตรเลียพิจารณาใช้มาตรการที่กำหนดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรถยนต์นำเข้าไปยังออสเตรเลียอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้เวลากับภาคอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ไทยได้มีเวลาปรับตัว และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในอุตสาหกรรมดังกล่าว

โดย 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) การค้าระหว่างไทยและออสเตรเลีย มีมูลค่า 13,654.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปออสเตรเลีย 9,307.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 5.74 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ และไทยนำเข้าจากออสเตรเลีย 4,347.69 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ ก๊าซธรรมชาติ น้ำมันดิบ และเครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ เป็นต้น.-517.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร