ปภ. 3 ม.ค.-อธิบดี ปภ. เผยอพยพประชาชนในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราชและสุราษฎร์ธานี ให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัยแล้ว สั่ง ปภ. นอกพื้นที่เสี่ยงสมทบภาคใต้รับมือสถานการณ์ เชื่อหากเกิดวิกฤติ จะสามารถรักษาชีวิตประชาชนได้
นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์พายุโซนร้อนปาบึก ที่จะเคลื่อนตัวเข้าสู่บริเวณภาคใต้และอ่าวไทย ช่วงวันที่ 3-5 มกราคมนี้ ว่า ปภ.ได้แจ้งเตือนไปยังทุกจังหวัดภาคใต้และพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่องทุกวัน ส่วนแผนเผชิญเหตุ ได้แจ้งให้จังหวัดตั้งศูนย์เฝ้าระวังเพื่อประเมินสถานการณ์ในจังหวัดของตนเอง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ รวมถึงบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุพายุขึ้นบริเวณใด และความรุนแรงมากน้อยเพียงใด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนให้ได้รับทราบ
นายชยพล กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือไปยัง ปภ.จังหวัดสุพรรณบุรี ปราจีนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ลงไปสมทบ 3 ศูนย์เขตในพื้นที่ภาคใต้ ทั้งบุคลากรต่าง ๆ รวมถึงเครื่องจักรในการบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งขณะนี้มีความพร้อมในทุกพื้นที่ ทั้งนี้จากการประเมินกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าความรุนแรงของพายุจะอยู่ที่ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงถึง 5 เมตร จึงได้สั่งการให้เรือทุกชนิดงดออกจากชายฝั่ง
ส่วนที่หลายฝ่ายกังวลว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาจจะมีความรุนแรง ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่แหลมตะลุมพุก จังหวัดนครศรีธรรมราช นายชยพล กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้สื่อสารไปยังประชาชนในทุกพื้นที่ พร้อมอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะผู้ป่วย ผู้พิการ เด็ก และคนชรา ซึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช และสุราษฎร์ธานี ได้อพยพประชาชนแล้ว แต่ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า 2 พื้นที่ดังกล่าวจะเป็นจุดที่พายุจะมีความรุนแรงที่สุด เนื่องจากมีการประเมินจากหลายภาคส่วนที่แตกต่างกันไป แต่เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความปลอดภัยไว้ก่อน ซึ่งเชื่อว่าการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ได้ ก็สามารถสื่อสารกับประชาชนได้ว่าพายุในครั้งนี้ มีความรุนแรงมาก พร้อมยืนยันว่า หากพายุนี้มีความรุนแรง ตามที่ได้คาดการณ์ไว้จริง จะสามารถรักษาชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนได้จำนวนมาก.-สำนักข่าวไทย