นักวิชาการ จี้ ก.พาณิชย์เร่งแก้ต่างชาติจดสิทธิบัตรใบกระท่อม

รร.ริชมอนด์ 6 ก.ย.-นักวิชาการ ระบุการจดสิทธิบัตรสารสกัดพืชกระท่อมของสหรัฐและญี่ปุ่น จะมีผลบังคับใช้ในไทยแน่  เม.ย.ปี 60 เรียกร้อง ก.พาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญาเร่งแก้ ด้วยกรอบของกฎหมาย ตีความสารสกัดในใบกระท่อมไม่ใช่ของใหม่ พร้อมเสนอแก้กฎหมาย ต่อไปจดสิทธิบัตรต้องระบุแหล่งที่มา ป้องกัน ไม่ให้เป็นโจรสลัดชีวภาพ


 

ในการเสวนาเรื่องสิทธิบัตรใบกระท่อม วิเคราะห์ผลกระทบข้อเสนอทางนโยบาย  โดย รศ.ดร.จิราพร ลิ้มปานานนท์ หน่วยวิจัยปฏิบัติการเภสัชศาสตร์สังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า จากการศึกษาสูตรโครงสร้างทางเคมี อนุพันธุ์ของใบกระท่อม  ตามที่มีการจดสิทธิบัตรใน 3 กลุ่ม 1.สหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2012 , 2.สหรัฐอเมริกา  เมื่อปี 2014  และ 3.ญี่ปุ่น ล่าสุดพบว่า มีเนื้อหาสอดคล้องกัน พบสาร ไมทราไจนิน ซึ่งเป็นสารระงับอาการปวด ซึ่งไม่แตกต่างจากคุณสมบัติของกระท่อมที่มีสรรพคุณในการบรรเทาอาการปวดอยู่แล้ว แต่การจดสิทธิบัตรนี้กลับครอบคลุมไปถึงอนุพันธุ์ของสาร กรรมวิธีในการผลิตสาร สูตรยาที่มีองค์ประกอบสารนี้ รูปแบบของการใช้ทั้งแบบ น้ำ ผง เจล การกำหนดสูตรยาห้ามเกิน 0.5 และครอบคลุมการใช้ในคนและสัตว์ ซึ่งจะมีผลทำให้ประเทศอื่นไม่สามารถนำสารสกัดนี้ไปใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้


 

รศ.ดร.จิราพร กล่าวด้วยว่า สรรพคุณของกระท่อมเองก็มีบรรจุอยู่ในตำรายาไทยโบราณ และอยู่ในวิถีชีวิตของคนไทยในอดีตใช้แก้ปวด ทั้งนี้ยังเห็นควรใช้มีการถอนพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติด เพื่อไม่เป็นอุปสรรคในการพัฒนายาในอนาคต และไม่ทำให้สมุนไพรไทยต้องติดกรอบในกรงขัง

ด้าน ผศ.ดร.สมชาย รัตนชื่อสกุล คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า การที่วานนี้(5 ก.ย.) รมว.พาณิชย์ระบุว่าการจดสิทธิบัตรใบกระท่อมของสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่นตามสนธิสัญญาความร่วมมือด้านสิทธิบัตร (PCT)ที่ จะครอบคลุมในประเทศสมาชิก 117 ประเทศ ว่าไม่ส่งผลกระทบกับไทยนั้น ความจริงแล้วสิทธิบัตรดังกล่าวจะมีผลกระทบอย่างแน่นอนในเดือนเมษายน 2560 ซึ่งทางออกของปัญหานี้ สามารถทำได้ หากกรมทรัพย์สินทางปัญญา มีการยืนยันว่า สิ่งที่จดในสิทธิบัตรไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์หรือสิ่งที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ เป็นของเดิมที่มีอยู่ใบประท่อมอยู่แล้ว เนื่องจากสนธิสัญญาดังกล่าว มีการเปิดช่องให้ประเทศสมาชิกสามารถปฏิเสธการให้คำรับรองได้ และไม่ควรสอบถามความคิดเห็นเพิ่มไปยังกรมวิชาการเกษตร เพราะกรมทรัพย์สินทางปัญญามีอำนาจในการปฏิเสธได้ทันที


 

ผศ.ดร.สมชาย กล่าวว่า ทางแก้ไขปัญหาเรื่องการจดสิทธิบัตรเกี่ยวกับภูมิปัญญาพื้นสมุนไพรในอนาคต กรมทรัพย์สินทางปัญญาควรมีการปรับแก้พ.ร.บ.สิทธิบัตร มาตรา7 ให้มีความชัดเจนมากขึ้น และความมีการปรับแก้ในการจดสิทธิบัตรทุกครั้ง ต้องมีการระบุที่มาของสิ่งประดิษฐ์ ว่ามีต้นกำเนิดมาจากสิ่งใด มาจากพื้นที่ใด และให้หน่วยงานของรัฐเป็นผู้ร่วมตรวจสอบด้วย ป้องกันโจรสลัดทางชีวภาพ ซึ่งจะเป็นไปตาม อนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ ให้ประเทศที่เป็นต้นกำเนิดของสิ่งประดิษฐ์ได้รับผลประโยชน์จาการจดสิทธิบัตรอย่างเป็นธรรม และได้รับความคุ้มครองด้วย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่