ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค พ.ย.ลดต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ 6 ธ.ค. – ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.61 ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 อยู่ที่ระดับ 80.5 จากปัญหาราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ยังคงตกต่ำและสงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทำให้กำลังซื้อชะลอตัวลง 


นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2561 ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3  มาอยู่ที่ระดับ 80.5 จากเดือนก่อนหน้าที่ 81.3 เนื่องจากผู้บริโภครู้สึกว่าราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและราคาสินค้าเกษตรหลายชนิดทรงตัวระดับต่ำ โดยเฉพาะยางพาราและปาล์มน้ำมัน รวมทั้งนักท่องเที่ยงจีนที่ลดลง และสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่เริ่มรุนแรงมากขึ้น จนถึงสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวลง ซึ่งค่าดัชนียังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าปกติที่ระดับ 100 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังมีความกังวลถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมที่ยังฟื้นตัวไม่มาก 

ทั้งนี้ จากผลการสำรวจภาวะการณ์ใช้จ่ายของผู้บริโภค ทั้งดัชนีความเหมาะสมในการซื้อรถยนต์คันใหม่ การซื้อบ้านหลังใหม่ และความเหมาะสมในการลงทุนทำธุรกิจเอสเอ็มอี ลดลงทุกรายการ แต่ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวกลับปรับตัวดีขึ้นในรอบ 3 เดือน  รวมทั้งดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในอนาคต แม้จะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 92.0 แต่ใกล้เคียงระดับปกติที่ 100 


อย่างไรก็ตาม เริ่มมีปัจจัยบวกมากขึ้น หลังจากรัฐบาลมีมาตรกรกระตุ้นการท่องเที่ยวผ่านการยกเว้นค่าธรรมเนียม Visa on Arrival และปัญหาสงครามการค้าเริ่มมีการเจรจากัน ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลายรายการเริ่มปรับตัวดีขึ้น และช่วงสิ้นปีประชาชนมีการเฉลิมฉลองตามเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งรัฐบาลออกมาตรการช้อปช่วยชาติกระตุ้นเศรษฐกิจจะส่งผลบวกต่อการจับจ่ายเพิ่มขึ้น และการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวทั้งจีนจะเริ่มกลับมาและประเทศอื่น ๆ ก็มาเที่ยวไทยมากขึ้น ซึ่งน่าจะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธันวาคม 2561 กลับมาปรับตัวดีขึ้น โดยไตรมาส 4 น่าจะขยายตัวร้อยละ 3.5-4  ทำให้หอการค้าไทยยังคงคาดการณ์เศรษฐกิจไทยปีนี้ร้อยละ 4.2 แต่ยังต้องติดตามท่าทีกลุ่มโอเปคที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันตลาดโลก และปัญหาสงครามการค้าจะยืดเยื้อหรือไม่ ขณะที่ปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยมีโอกาสเติบโตเกินร้อยละ 4-4.5 โดยยังมีหลายปัจจัยที่ต้องตาม คือ ทางออกสงครามการค้า ราคาน้ำมัน เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง