รัฐสภา 27 ต.ค.- “สุพัฒนพงษ์” ยอมรับ การชุมนุมส่งผลต่อดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ชี้ เป็นเรื่องน่าเสียดาย เมื่อโควิด-19 ดีขึ้น คนในประเทศกลับเห็นต่าง ยืนยัน รัฐบาลเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจ หวังให้ผู้ชุมนุมเข้าใจ และร่วมพัฒนาประเทศ
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงถึงการบริหารงานของรัฐบาลว่า ต้องการให้ทุกคนนึกย้อนไปยังเดือนเมษายนที่ผ่านมา ที่เป็นช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งแตกต่างจากตอนนี้อย่างสิ้นเชิง การกล่าวหาว่ารัฐบาลทำงานไม่สำเร็จ เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก เพราะรัฐบาลพยายามประคับประคองสถานการณ์ ให้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และไทยเป็นประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ได้ปรับตัวดีขึ้น แต่เมื่อมีความเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมือง ก็ทำให้หลายอย่างมีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องของดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค แต่รัฐบาลจะยังเดินหน้าทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป ขณะนี้ ดัชนีชี้วัดทุกตัวยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นราคาสินค้าเกษตร ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ การลงทุนของภาคเอกชน และการส่งออก
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ต่างชาติจับตามองไทยด้วยความชื่นชม และไทยได้รับการประเมินให้เป็นประเทศเดียวในอาเซียน ที่ได้รับการปรับอัตราการฟื้นฟูได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ จึงต้องการให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ของรัฐ ดังนั้น นี่คือสิ่งที่เราทำงานร่วมกันมา จนเป็นที่ประจักษ์ของหน่วยงานต่างประเทศ
“ประเทศไทยถือว่าประสบความสำเร็จในการควบคุมเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี และพยายามจะฟื้นฟูประเทศ แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ที่กลุ่มผู้ชุมนุมกลับมีความต่าง และแม้จะมีผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจบ้าง แต่ภารกิจในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลยังไม่จบสิ้น และจำเป็นต้องเดินหน้าต่อไป รัฐบาลจะพยายามเต็มที่ และพร้อมจะอดทนร่วมกับทุกๆ ภาคส่วน ในการช่วยกันแก้ไขวิกฤตให้จบให้ได้ และรอให้ผู้ชุมนุมเข้าใจและหันมาเป็นผู้ที่มาร่วมพัฒนาประเทศต่อไป” นายสุพัฒนพงษ์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย