แม่รีดลูกแฝดทิ้งถังขยะย่านบางปู

สมุทรปราการ 1 ธ.ค.- แม่สาวรีดลูกแฝดทิ้งถังขยะกลางหมู่บ้านเอื้ออาทรย่านบางปู จ.สมุทรปราการ หลังคนเก็บขวดพบซากทารกถูกห่อในถุงพลาสติก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ


เวลา 20.00 น. เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.) ตำรวจ สภ.บางปู พร้อมเจ้าหนาที่กู้ภัย ตรวจสอบซากทารก 2 ศพ ที่มีผู้นำมาทิ้งไว้ในถังขยะภายในบ้านเอื้ออาทร ทางเข้านิคมอุตสาหกรรมบางปู ตำบลบางปูใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ โดยสภาพของทารกทั้งสองยังมีคราบเลือดติดอยู่ คาดว่าเป็นซากทารกอายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน จำนวนนี้เป็นทารกเพศหญิง 1 ศพ ส่วนอีกศพนั้นยังไม่ทราบเพศ นอกจากนี้ ยังมีผ้าอนามัยถูกห่ออยู่ในถุงพลาสติกเดียวกัน เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เก็บร่างส่งสถาบันนิติเวชวิทยาตรวจหารายละเอียด

ชาวบ้านบอกว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. มีคนมาเก็บขวดพลาสติกจากถังขยะไปขาย  และพบซากทารกถูกห่อในถุงพลาสติกของร้านสะดวกซื้อ จึงได้เรียกชาวบ้านมาดูว่าเป็นซากของสัตว์ที่ตายแล้ว หรือเป็นซากของทารก กระทั่งแน่ใจว่าทั้งสองเป็นซากทารก จึงได้โทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ฯ มาตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า น่าจะเป็นวัยรุ่นที่พักในบ้านเอื้ออาทรที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อม หรือพยายามที่จะกินยาเพื่อขับทารกออกจากครรภ์ เมื่อทารกออกมาจึงได้นำมาทิ้งในถังขยะ โดยไม่คิดว่าจะมีชาวบ้านมาพบ จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบหญิงต้องสงสัยคนหนึ่ง เดินถือถุงสีขาว ก่อนทิ้งถุงดังกล่าวลงในถังขยะ


ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ได้เชิญตัวไปสอบสวนที่ สภ.บางปู และล่าสุดจากการสอบสวน “น.ส.น้อย” นามสมมติ อายุ 26 ปี ให้การว่าตนเองเป็นแคตดี้อยู่ที่สนามกอล์ฟในสมุทรปราการ และเลิกกับสามีมาได้ประมาณ 3 เดือน กระทั่งวันนี้ตนรู้สึกปวดท้องคล้ายประจำเดือนมา จึงไปซื้อยาแก้ปวดรอบเดือนจากร้านสะดวกซื้อมารับประทานในเวลาประมาณ 13.00 น. เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.)

จากนั้นเวลาประมาณ 15.00 น. รู้สึกปวดท้องและคลอดลูกออกมาโดยไม่ทราบว่าตนเองท้อง แต่หลังจากคลอดลูกพบว่าลูกได้เสียชีวิตแล้ว ด้วยความตกใจและไม่รู้จะไปปรึกษาใคร จึงตัดสินใจนำซากศพของลูกที่คลอดออกมาใส่ถุงพลาสติกไว้

กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. จึงนำออกไปทิ้งที่ถังขยะ แล้วไปอาศัยนอนพักฟื้นที่ห้องเพื่อนใกล้กับจุดที่นำทารกไปทิ้ง กระทั่งเห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบที่ถังขยะ จึงตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัว


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงส่งตัว “น.ส.น้อย” ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากมีการเสียเลือดมาก และมีอาการอ่อนเพลีย เมื่อหายดีแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเชิญตัวมาแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

จนท.รุดช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องขังลูกติดยา

หลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยอดีตครูจำใจสร้างห้องลูกกรง เตรียมขังลูกชายตกเป็นทาสยาเสพติด-พนันออนไลน์ บำบัดนับสิบครั้งไม่หาย พร้อมทำความเข้าใจผิดกฎหมายหน่วงเหนี่ยวกักขัง ขณะที่ รมว.ยุติธรรม เตรียมพิจารณาออกมาตรการบำบัดซ้ำโดยคำสั่งศาล

ทนายตั้ม

“ทนายตั้ม” ปรากฏตัวแล้ว บอกไม่สบายใจมี ตร.เฝ้าหน้าบ้าน

ปรากฏตัวแล้ว “ทนายตั้ม” พบตำรวจเหตุมีเจ้าหน้าที่ไปเฝ้าที่บ้าน พร้อมแจงปมเงิน 39 ล้านบาท ค่าศิลปินจีน ที่แท้เป็นมิจฉาชีพหลอก “เจ๊อ้อย” ปฏิเสธพบคู่กรณี บอกยังไม่พร้อมคุย

เกาะกูด

“ภูมิธรรม” ย้ำจะรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต

“ภูมิธรรม” มอง MOU44 คือกลไกที่ดีที่สุด ก่อนย้อนกลุ่มการเมือง พปชร.ไปถามหัวหน้าพรรคตัวเอง เพราะเป็นคนนำเจรจาในปี 57 ยันไม่เคยยกเลิกในสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ย้ำรัฐบาลจะรักษาดินแดน-ผลประโยชน์ทางทะเลของไทยไว้เท่าชีวิต