ปารีส 12 พ.ย.- ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สมาร์ทโฟนนอกจากเป็นอาวุธทรงพลังอย่างหนึ่งของกลุ่มก่อการร้ายในยุคนี้ ยังเป็นเครื่องมือให้กลุ่มก่อการร้ายถูกหน่วยข่าวกรองและปราบปรามก่อการร้ายเล่นงานกลับด้วย
อดีตเจ้าหน้าที่ปราบปรามก่อการร้ายชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งเผยว่า เหตุก่อการร้ายหลายระลอกในกรุงปารีสในวันนี้เมื่อ 3 ปีก่อนอาจไม่มีคนล้มตายเป็นจำนวนมากหากไม่มีโทรศัพท์มือถือ กลุ่มคนร้ายส่งข้อความสั้นบอกผู้สมรู้ร่วมคิดในเบลเยียมก่อนเข้าไปสังหารหมู่ผู้คนในโรงละครบาตาคล็องว่า กำลังจะลงมือ โทรศัพท์มือถือเป็นเครื่องมือก่อเหตุร้ายมาตั้งแต่ปี 2546 เมื่อกลุ่มติดอาวุธในอิรักใช้เป็นตัวจุดชนวนระเบิดเล่นงานขบวนรถทหารอเมริกันที่ขับผ่าน ปัจจุบันกลุ่มก่อการร้ายสื่อสารกันผ่านแอปพลิเคชันเข้ารหัสหลีกเลี่ยงการแกะรอยของเจ้าหน้าที่ และใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อหาคนเข้าร่วมกลุ่มเพราะเข้าถึงได้ทุกคนทุกที่ทุกเวลา ไม่เหมือนเมื่อ 30 ปีก่อนที่ต้องใช้วิดีโอเทปเป็นสื่อในการเข้าถึงซึ่งทำได้อย่างจำกัด
ขณะเดียวกันสมาร์ทโฟนก็เป็นดาบสองคมสำหรับกลุ่มก่อการร้ายเพราะเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสามารถนำมาใช้แกะรอยและเป็นหลักฐานเอาผิดได้ แต่ก็อาจมีปัญหากับผู้ผลิตและบริษัทไฮเทคที่อ้างเรื่องปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน อดีตเจ้าหน้าที่ปราบปรามก่อการร้ายชาวฝรั่งเศสคนเดิมเผยว่า ปี 2556 กองทัพฝรั่งเศสช่วยรัฐบาลมาลีจัดการกลุ่มติดอาวุธที่ยึดพื้นที่ครึ่งประเทศทางตอนเหนือด้วยการหาตำแหน่งที่ตั้งกลุ่มติดอาวุธจากสมาร์ทโฟน แล้วถล่มด้วยปฏิบัติการทางอากาศ ถึงแม้คนร้ายจะเปลี่ยนซิมการ์ดไปเรื่อย ๆ แต่ตัวโทรศัพท์มีข้อมูลเฉพาะตัว หากถูกตรวจพบเมื่อใดก็จะถูกติดตามไปตลอด.- สำนักข่าวไทย