กรมบัญชีกลาง 5 ต.ค. – กรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมดึงห้างสรรพสินค้า-ร้านธงฟ้านับแสนรายเข้าร่วมการชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการ เตรียมใช้ระบบสแกนใบหน้ารองรับใช้บัตรฯ ผ่านแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ ชาวบ้านใช้เงินผ่านบัตรสวัสดิการ 42,440 ล้านบาท เพิ่มกำลังซื้อในชุมชน
นางญาณี แสงศรีจันทร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยระหว่างร่วมงานวันคล้ายวันสถาปนากรมบัญชีกลางครบรอบ 128 ปี ซึ่งตรงกับวันที่ 7 ตุลาคมของทุกปี ว่า ภายในเดือนตุลาคมนี้ เตรียมเริ่มใช้การสแกนใบหน้า (Application face scan) เพื่อให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ชำระเงินแทนรูปแบบเดิมที่ต้องกดรหัสเลข 6 หลักในการซื้อสินค้า ขณะที่ชาวบ้านไม่อยากให้ร้านค้ากดรหัสให้และบางรายอาจลืมรหัส หรือกดไม่ถูกต้อง จึงหันมาให้ร้านค้านำมือถือสมาร์ทโฟนถ่ายใบหน้าผู้ถือบัตรยืนยันเมื่อใช้ผ่านแอพฯ เพื่อให้คนซื้อมีใบหน้าตรงกับผู้ถือบัตรใช้เป็นทางเลือกเพิ่มอีกช่องทางหนึ่ง หลังจากมีร้านค้ารับชำระเงินผ่านทางโมบายแอพพลิเคชั่น “ถุงเงินประชารัฐ” ของธนาคารกรุงไทย ผ่านร้านค้าที่โหลดแอพฯ ถุงเงินประชารัฐ 7,837 ร้านค้า เป็นเงิน 140 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังเตรียมเปิดให้ห้างสรรพสินค้า เช่น บิ๊กซี โลตัส แม็คโคร ร่วมโครงการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยเอกชนผู้ร่วมโครงการต้องมีเครื่องคิดเงินชำระสินค้า (POS) แบบแยกใบเสร็จภาษีมูลค่าเพิ่มและเครื่องรูดเงินอีดีซีเชื่อมโยงข้อมูลกับกรมบัญชีกลาง ขณะนี้มีห้างฯ และร้านธงฟ้าประชารัฐพร้อมเข้าร่วมนับแสนราย โดยใช้ข้อมูลจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 30 เมษายน 2562 เงินภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7 แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ คงไว้เป็นเงินภาษีร้อยละ 1 ส่งคืนกลับไปให้ใช้จ่ายร้อยละ 5 และเพื่อสำหรับการออมอีกร้อยละ 1 และในอนาคตมีแผนขยายการใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐกับมอเตอร์ไซค์รับจ้างด้วย
ส่วนการจัดตั้งกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักการร่างพระราชบัญญัติกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ…. เพื่อใช้จ่ายเป็นสวัสดิการ ให้บริการทางสังคม สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณารับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติการจัดประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม พ.ศ…. แล้ว สำหรับโครงการประชารัฐสวัสดิการแห่งรัฐ 11.47 ล้านราย ได้วางเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) ทั่วประเทศ 35,359 เครื่อง ยอดการใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 – 27 กันยายน 2561 รวมทั้งสิ้น 42,440 ล้านบาท แบ่งเป็น ร้านธงฟ้าประชารัฐ 41,318 ล้านบาท ร้านก๊าซหุงต้ม 59.5 ล้านบาท รถ บขส. 111.7 ล้านบาท รถไฟ 217.6 ล้านบาท รถไฟฟ้า (เริ่ม 20 ก.ค. 61) 8.7 ล้านบาท และเงินมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต ได้โอนเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ( e-Money ) 724.6 ล้านบาท และยังมีเงินสงเคราะห์ของกองทุนผู้สูงอายุ สำหรับภาษีสรรพสามิตและสุรายาสูบ โดยโอนเข้า e-Money ให้กับผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการฯ จำนวน 50 และ100 บาท เพื่อเพิ่มทางเลือกและเพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ถือบัตรนำเงินไปใช้จ่ายได้ตามความต้องการ
“ความคืบหน้าการเชื่อมต่อระบบ Point of Sale (POS) ขณะนี้อยู่ระหว่างการรับสมัครร้านค้าธงฟ้าประชารัฐกลุ่มเป้าหมาย 3,000 ร้านค้า ที่ประสงค์ขอติดตั้งอุปกรณ์เครื่องบันทึกการเก็บเงิน ตั้งแต่วันที่ 1- 15 ตุลาคม 2561 โดยมีร้านค้าธงฟ้าประชารัฐสมัคร 120 ร้านค้า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2561 – 30 เมษายน 2562 ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้มีสิทธิ์จะนำมาประมวลผลเพื่อชดเชยภาษีมูลค่าเพิ่มให้ โดยเริ่มจ่ายเงินชดเชย ตั้งแต่ 14 ธันวาคม 2561 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ผู้มีสิทธิ์สามารถใช้บัตรกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐและร้านค้าเอกชน ประมาณ 300,000 ร้านค้า ที่เชื่อมต่อระบบดังกล่าว โดยจะนำข้อมูลมาจ่ายเงินชดเชยให้ต่อไป” รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าว .-สำนักข่าวไทย