กรุงเทพฯ 4 ก.ย. – กรมชลฯ ใช้เขื่อนขุนด่านปราการชลเบรกชะลอน้ำเหนือ ลดระบายน้ำลงพื้นที่ท้ายเขื่อน หลีกทางน้ำป่าไหลหลากด้านท้ายเขื่อน ลดผลกระทบแม่น้ำนครนายก
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า จากสภาพฝนที่ตกชุกอย่างต่อเนื่อง บริเวณเหนือน้ำตกนางรอง น้ำตกวังตะไคร้ และน้ำตกสาลิกา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลหลากลงสู่แม่น้ำนครนายกที่อยู่ด้านท้ายเขื่อนขุนด่านปราการชล ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำนครนายกที่สถานีวัดน้ำ NY.1B บ้านเขานางบวช อ.เมือง จ.นครนายก เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทานได้บริหารจัดการน้ำด้วยการชะลอและลดการระบายน้ำจากเขื่อนขุนด่านปราการชลลงสู่แม่น้ำนครนายกให้น้อยลง ตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เพื่อหลีกทางให้น้ำจากลำห้วยต่าง ๆ ไหลผ่านสถานี NY.1B ไปก่อน เป็นการลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำนครนายก รวมถึงเขตเทศบาลเมืองนครนายก โดยไม่เพิ่มภาระให้กับพื้นที่น้ำท่วมเดิมบริเวณ อ.บ้านนา และ อ.องครักษ์
สำหรับสถานการณ์น้ำในเขื่อนขุนด่านปราการชล ปัจจุบัน (4 ก.ย.) มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 197 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 88 ของความจุอ่างฯ สามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 27 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำนครนายกเช้าวันนี้ ยังคงมีน้ำเอ่อล้นตลิ่งบริเวณบ้านเขานางบวช อ.เมือง จ.นครนายก ประมาณ 30-50 เซนติเมตร แนวโน้มน้ำเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง ปริมาณน้ำจะไหลต่อมายังตัวเมือง จ.นครนายก ขณะนี้ระดับน้ำยังต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 60 เซนติเมตร ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งบริเวณเขตเทศบาลเมืองนครนายกแต่อย่างใด และเมื่อปริมาณน้ำดังกล่าวไหลผ่านตัวเมืองไปแล้ว กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านอาคารระบายน้ำล้น (Spillway) ของเขื่อนขุนด่านปราการชลตามเดิม นับว่าเป็นการใช้อาคารชลประทานอย่างเหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดอีกครั้งหนึ่ง สามารถช่วยลดผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนได้อย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย