กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – กรมชลประทานเตรียมพื้นที่ทุ่งบางระกำ หน่วงน้ำหลากภาคเหนือ ส่งเสริมการประมงทดแทนอาชีพหลัก ลดผลกระทบอุทกภัยลุ่มน้ำแม่ยมและลุ่มเจ้าพระยา
นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการบางระกำโมเดลเป็นหนึ่งในแนวทางการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำยม ซึ่งในช่วงฤดูน้ำหลากจะเกิดปัญหาอุทกภัยในเขตจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย ทั้งยังส่งผลต่อเนื่องทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้รับผลกระทบตามไปด้วย รัฐบาลจึงได้บูรณาการร่วมกับหลายหน่วยงานจัดทำโครงการบางระกำโมเดล ด้วยการปรับปฏิทินการเพาะปลูกสลับกับการทำประมงในช่วงฤดูน้ำหลาก เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากอุทกภัยที่ส่งผลต่อพืชผลผลิตทางเกษตร ทั้งยังช่วยส่งเสริมรายได้ทดแทนให้แก่เกษตรกรในพื้นที่หลังช่วงเพาะปลูกอีกด้วย
สำหรับการบริหารจัดการน้ำในทุ่งบางระกำปี 2562 กรมชลประทานได้วางแผนเตรียมการส่งน้ำเข้าสู่ระบบคลอง ตั้งแต่วันที่ 15-31 มีนาคม 2562 และส่งน้ำให้เกษตรกรเริ่มทำการเพาะปลูกพืชฤดูฝนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 และสิ้นสุดการส่งน้ำวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 จากนั้นตั้งแต่เดือน สิงหาคม – พฤศจิกายน 2562 จะเป็นช่วงเวลาหน่วงน้ำรับปริมาณน้ำหลากจากลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำสาขา รวมทั้งปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่เกษตรกรสามารถทำอาชีพประมงเป็นรายได้เสริมหลังจากฤดูการเพาะปลูก
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากกรมประมงเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ได้รับการสนับสนุนพันธุ์ปลาจากกรมประมง 20 ล้านตัว ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว ปล่อยไป 5 ล้านตัว แบ่งเป็นปลาขนาด 3-5 ซม.จำนวน 5 ล้านตัว ปลาวัยอ่อน อายุ 3 วัน 15 ล้านตัว อาทิ ปลาสร้อยขาว ปลาตะเพียนขาว ปลาดุกอุย ปลาหมอตาล ปลายี่สกเทศ ปลากระแห ปลาตะเพียนทอง ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการปล่อยปลา ขนาด 3-5 ซม. เข้าพื้นที่ลุ่มต่ำทุ่งบางระกำไปแล้วประมาณ 1.5 ล้านตัว และจะทยอยปล่อยพันธุ์ปลาเพิ่มสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จะทำการปล่อยปลาบริเวณจิกเอนบ้านใหม่โพธิ์ทอง ใน วันที่ 11 กันยายน และจะทำการปล่อยปลาครั้งที่ 2 บริเวณหน้าวัดแม่ระหัน วันที่ 13 กันยายน โดยจะทำการปล่อยปลารวม 6 ครั้งจนครบจำนวน นอกจากนี้ ยังได้ประสานไปยังศูนย์ประมงตาก ขอรับการสนับสนุนกุ้งก้ามกรามเพิ่มเติมอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย