เชียงราย 31 พ.ค. – กรมประมง ตรวจสารปนเปื้อนสัตว์น้ำในแม่น้ำกก-แม่น้ำสาย พบโลหะหนักไม่เกินค่ามาตรฐาน แต่ยังไม่แนะนำให้บริโภคในระยะนี้ พร้อมเดินหน้าสุ่มเก็บตัวอย่างต่อเนื่อง 2 ครั้ง/เดือน ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง จ.เชียงราย-เชียงใหม่
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า จากสถานการณ์มลพิษในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย กรมประมงได้ตั้งแผนปฏิบัติการเฉพาะกิจเพื่อติดตามและเฝ้าระวังสารปนเปื้อนในสัตว์น้ำอย่างเข้มข้น โดยมีการสุ่มเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งใน 4 จุดเสี่ยงสำคัญของ จ.เชียงใหม่ และเชียงราย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงกันยายน 2568
จากการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างปลากินพืชและปลากินเนื้อ เช่น ปลาสร้อย ปลาซ่า ปลาค้าว และปลากด 3 รอบที่ผ่านมา พบว่าสารโลหะหนัก 4 ชนิด ได้แก่ สารหนู (As), ปรอท (Hg), ตะกั่ว (Pb) และแคดเมียม (Cd) ยังอยู่ในระดับไม่เกินค่ามาตรฐานตามเกณฑ์ความปลอดภัย อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของประชาชน กรมประมงยังไม่แนะนำให้บริโภคสัตว์น้ำที่จับได้จากแม่น้ำสายและแม่น้ำกก ในช่วงนี้
ส่วนกรณีปลาที่มีตุ่มแดงจากการจับในพื้นที่ กรมประมงได้วินิจฉัยโรคพบว่าเกิดจากปรสิตกลุ่มไดจีนและแบคทีเรียในผิวหนัง แต่ไม่พบเชื้อไวรัสและไม่พบเชื้อในอวัยวะภายใน โดยยังคงเฝ้าระวังเพิ่มเติมร่วมกับการตรวจทางแบคทีเรียวิทยา ไวรัสวิทยา และพยาธิวิทยา อย่างต่อเนื่อง
สำหรับจุดสำรวจประกอบด้วย 3 จุดใน จ. เชียงราย ได้แก่ บ้านโป่งนาคำถึงแคววัวดำ (CR1) สะพานแม่ฟ้าหลวงถึงฝายเชียงราย (CR2) และหลังวัดสันธาตุถึงสบกก ต.โยนก อ. เชียงแสน (CR3) และอีก 1 จุด ใน จ.เชียงใหม่ บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา หย่อมบ้านแก่งตุ๋ม ต.ท่าตอน อ.แม่อาย (CM1) โดยสัตว์น้ำแต่ละตัวอย่างจะถูกตรวจทั้งระดับสารพิษ โลหะหนัก และโรคที่อาจเป็นอันตรายต่อการบริโภค
รองอธิบดีกรมประมงย้ำว่า สัตว์น้ำส่วนใหญ่ที่จำหน่ายในตลาดเพื่อการบริโภคมาจากระบบการเพาะเลี้ยง ซึ่งไม่ได้ใช้น้ำจากแม่น้ำสายและแม่น้ำกก ประชาชนจึงยังสามารถบริโภคสัตว์น้ำจากแหล่งเพาะเลี้ยงได้อย่างปลอดภัย โดยกรมประมงจะเร่งติดตามและรายงานผลการเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-512-สำนักข่าวไทย