กรุงเทพฯ 1ก.ย. –กรมชลประทาน เผยน้ำท่วมปราจีนบุรีเริ่มอลดแล้ว
แผนการระบายน้ำที่ผ่านมาไม่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำนครนายกและแม่น้ำปราจีนบุรี เตือนแม่น้ำท่าจีน
น้ำเพิ่มเร่งวางแผนลดผลกระทบ คาด ปลาย กันยายนประเทศไทยอาจจะได้รั
ที่ทำให้มีฝนตกบริ
นายทองเปลว
กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตจ.ปราจีนบุรี
ปัจจุบัน (1 ก.ย. 61) ระดับน้ำที่ท่วมขังส่วนใหญ่ลดลงแล้ว
คงเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบบริเวณตลาดเก่าอำเภอกบินทร์บุรี
และพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำปราจีนบุรี
ซึ่งได้วางมาตรการในการเร่งการระบายน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีและช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
โดยกรณีการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก
จ.สระแก้ว นั้น เป็นการส่งน้ำเพื่อใช้ในการเกษตรพื้นที่ท้าย อ่างฯ
เพียงวันละ 74,000 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ส่วนเขื่อนขุนด่านปราการชล จ.นครนายก
ระบายน้ำลงสู่แม่น้ำนครนายกเพียง 85 ลบ.ม./วินาที ในขณะที่แม่น้ำนครนายกสามารถรับน้ำได้
230 ลบ.ม./วินาที ดังนั้น น้ำที่ระบายจากอ่างเก็บน้ำท่ากระบาก
และเขื่อนขุนด่านปราการชล จึงไม่ส่งผลต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำนครนายก
และแม่น้ำปราจีนบุรี
ในส่วนของเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี
พื้นที่มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถานปราจีนบุรี รวมทั้งโบสถ์และพิพิธภัณฑสถาน
วัดแก้วพิจิตร พระอารามหลวง ยังไม่มีน้ำท่วม เนื่องจากเทศบาลเมืองปราจีนบุรี
มีเขื่อนป้องกันตลิ่งสูงกว่าระดับน้ำปัจจุบัน 35 เซนติเมตร
ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณเทศบาลเมืองปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ กรมชลประทาน
ได้ให้โครงการชลประทานในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำ รวมทั้งเตรียมพร้อมเครื่องจักร
เครื่องมือต่างๆ ที่จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด24 ชั่วโมง
ส่วนฝนที่ตกชุกและตกหนักในหลายพื้
ส่งผลให้แม่น้ำสายหลักไม่ว่
และไหลรวมกันลงสู่แม่น้ำเจ้
ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่า ในช่วงเดือนกันยายน
ยังคงมีฝนตกในพื้นที่เดิมตามฤดู
ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก โดยในช่วงปลายเดือนกันยายน ประเทศไทยอาจจะได้รั
ที่ทำให้มีฝนตกบริ
โดยสถานการณ์น้ำใน 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา
(31 ส.ค. 61) มีปริมาณน้ำรวมกัน 16,214 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ 65 ของความจุอ่างฯรวมกัน มีปริมาณน้ำใช้การได้ 9,518 ล้าน ลบ.ม. หรือร้อยละ
52 ของปริมาณน้ำใช้การได้ทั้งหมด สามารถรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 8,650 ล้าน ลบ.ม.
วางแผนการระบายน้ำจาก 4
เขื่อนหลัก ตามเกณฑ์ที่เหมาะสม เขื่อนภูมิพล ระบายน้ำวันละ 5-8 ล้าน ลบ.ม.เขื่อนสิริกิติ์ ระบายน้ำวันละ 30 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ระบายน้ำวันละ
1.30 ล้าน ลบ.ม. ส่วนเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยังคงระบายน้ำในอัตราวันละ 35 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำที่ระบายยังคงไหลอยู่
ในส่วนของแม่น้ำท่าจีน
ระดับน้ำมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น ได้เร่งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ
อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี 12 เครื่อง
และบริเวณอ.บางเลน 16 เครื่อง อ.นครชัยศรี 31
เครื่อง และอ.สามพราน จ.นครปฐม 22 เครื่อง รวมทั้งสิ้น 81 เครื่อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิ
พร้อมกันนี้ ได้ให้ทุกโครงการชลประทาน บูรณาการทำงานร่วมกับผู้ว่
สำนักงานป้องกั
หน่วยทหาร และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในการประชาสัมพันธ์แจ้งเตื
บริเวณริม 2 ฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ให้รับทราบข้อมูลสถานการณ์น้ำ
ซึ่งกรมชลประทาน จะบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกั
โดยไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชนหรื
ประชาชนสามารถสอบถามข้อมู
1460 หรือติดตามได้ทาง
–สำนักข่าวไทย