กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – รมว.เกษตรฯ ประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์เกลือทะเลไทยนัดแรก เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน-ราคาตกต่ำ
นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกลือทะเลไทย ครั้งที่ 1/2561 โดยกล่าวว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตีความว่าอาชีพทำเกลือทะเลเป็นอาชีพเกษตรกรรม จึงเร่งแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูแลเกษตรกร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน รัฐมนตรีช่วยและปลัดกระทรวงเป็นรองประธาน มีอธิบดีกรมที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ทั้งนี้ เพื่อจัดทำมาตรฐานเกลือทะเล ร่างพระราชบัญญัติเกลือทะเล จัดตั้งสถาบันเกลือทะเล และการแก้ไขปัญหาหนี้สินของชาวนาเกลือ ทั้งหมดเป็นยุทธศาสตร์เกลือทะเลไทย พ.ศ. 2560-2564
สำหรับการทำนาเกลือมี 7 จังหวัด คือ เพชรบุรี สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชลบุรี จันทบุรี ฉะเชิงเทรา และปัตตานี มีพื้นที่มากกว่า 60,000 ไร่ ผลผลิตประมาณ 900,000 ตันต่อปี ชาวนาเกลือร้องเรียนปัญหาราคาเกลือทะเลตกต่ำตั้งแต่ปี 2557 ต้นทุนเกวียนละ 1,600 บาท แต่ขายได้เกวียนละ 700 บาท ขาดทุนเรื่อยมา จนเกิดปัญหาหนี้สินสะสมรวมกันมากกว่า 517 ล้านบาท อีกทั้งผลผลิตเกลือธรรมชาติไม่สามารถผลิตได้ตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมและมาตรฐานอาหารที่กำหนดว่าเกลือบริโภคต้องเติมสารไอโอดีน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์เกลือทะเล โดยปรับระบบการผลิตเกลือทะเลให้มีต้นทุนต่ำเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และมีช่องทางการตลาดมากขึ้น ล่าสุดมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรีได้วิจัยนำเกลือมาสร้างนวัตกรรมผลผลิตใหม่ ๆ ได้แก่ การพัฒนาดอกเกลือทะเลแห้ง สูตรปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพด้วยขี้แดดนาเกลือในระบบปลูกพืชไฮโดรโพรนิกส์ สูตรปุ๋ยขี้แดดนาเกลือ เพื่อเพิ่มคุณภาพผลผลิตของผลไม้และไม้ตัดดอก เป็นต้น และเตรียมจัดตั้งสถาบันเกลือทะเลไทย เพื่อยกมาตรฐานการผลิตเกลือทะเลให้มีการผลิตแบบอุตสาหกรรม
นายกฤษฎา กล่าวว่า ต้องแก้ปัญหาหนี้สินชาวนาเกลือ โดยจะสนับสนุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกร วงเงิน 52.5 ล้านบาท อีกทั้งมีสหกรณ์การเกษตร 4 แห่งร่วมโครงการ ได้แก่ สหกรณ์กรุงเทพ จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร สหกรณ์การเกษตรนาเกลือสมุทรสาคร สหกรณ์การเกษตรนาเกลือสมุทรสงคราม และกลุ่มเกษตรกรนาเกลือบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี รับประกันราคาเกลือไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ของราคาตลาด โดยสามารถเก็บเกลือไว้ที่ยุ้งฉางของสหกรณ์หรือของเกษตรกร เป้าหมายเฉลี่ยเกวียนละ 2,500 บาท (1 เกียนเท่ากับ 1,600 กิโลกรัม) ขณะนี้กำลังเตรียมทำรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่และสำรวจความต้องการใช้เกลือตามนโยบายตลาดนำการผลิต พบว่า ปริมาณการใช้เกลือในประเทศมีประมาณปีละ 900,000 ตัน โดยใช้ในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูป (รวมเพื่อการส่งออก) 450,000 ตันต่อปี อุตสาหกรรมผลิตน้ำปลา 430,000 ตันต่อปี อุตสาหกรรมผลิตซอสปรุงรสและผักผลไม้ดองในน้ำเกลือ รวมถึงอาหารทะเลในน้ำเกลือ 20,000 ตัน ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เกลือสินเธาว์ที่ผลิตได้มาตรฐานอุตสาหกรรมและมาตรฐานอาหาร ดังนั้น จึงมอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลักในการบริหารจัดการด้านการตลาดนำการผลิตเกลือทะเล เพื่อแก้ปัญหาราคาเกลือทะเลตกต่ำ ช่วยเหลือให้ชาวนาเกลือให้มีรายได้เพิ่มขึ้น พ้นภาวะหนี้สิน และทำนาเกลือทะเลเป็นอาชีพที่สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจของเกษตรกรและเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ชาวนาเกลือจะได้รับความช่วยเหลือจากภาครัฐ เมื่อมีการตีความว่าการทำนาเกลือเป็นอาชีพเกษตรกรรม.-สำนักข่าวไทย