“เลขาฯ ป.ป.ส.” แจงยิบ กรณีแถลงจับเคตามีน แต่กลายเป็นเกลือ

กทม. 29 ต.ค.-“เลขาฯ ป.ป.ส.” แจงละเอียดยิบ เคลียร์ทุกอย่าง หลัง “อัจฉริยะ” ยื่น นายกฯ ขอปลดออก ยันชัดประสานเพื่อนบ้าน-UN สกัดสารตั้งต้น เผยอำนาจการบำบัด-กำหนดผู้เสพ อยู่ที่สาธารณสุข ชี้อายัดทรัพย์สิน-แจ้งข้อหาคดีสมคบไม่ได้ล่าช้า ตำรวจขอหมายศาลแล้วจับได้ทันที ไม่ต้องรอ ป.ป.ส.

นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงกรณีที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อต้องการให้ปลดเลขาธิการ ป.ป.ส. ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริหารงานล้มเหลว ว่า จากประเด็นทั้งหมดตนขอชี้แจงว่า กรณีการแถลงจับกุมเคตามีนแต่กลายเป็นเกลือ


กรณีดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดสิ่งต้องสงสัยว่าเป็นยาเสพติดในโกดังที่ฉะเชิงเทราที่มีจำนวนมากจะประสานให้สถาบันตรวจพิสูจน์ยาเสพติดของสำนักงาน ป.ป.ส. และพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเข้ารวมเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจพิสูจน์เบื้องต้นด้วยชุดตรวจทดสอบเคตามีน ซึ่งผลตรวจพิสูจน์เบื้องต้นของทั้งสองหน่วยงานได้ผลตรวจพิสูจน์เป็นบวก ซึ่งแสดงว่าเป็นเคตามีน ประกอบกับเคตามีนที่ไต้หวันตรวจยึดได้นำมาจากที่โกดังในที่เกิดเหตุ มีการบรรจุถุงในลักษณะเดียวกัน ลักษณะทางกายภาพเหมือนกันกับเคตามีน จึงน่าเชื่อว่าเป็นเคตามีน และในการแถลงข่าวก็แจ้งสื่อไปแล้วว่าเป็นแค่ผลตรวจเบื้องต้นเท่านั้น จะยืนยันผลชัดเจนว่าเป็นเคตามีนก็ต่อเมื่อนำตัวอย่างสารนี้ไปทดสอบในห้องตรวจพิสูจน์โดยใช้เครื่องมืออุปกรณ์ชั้นสูงอีกครั้งหนึ่ง เมื่อผลตรวจพิสูจน์พบว่าเป็นสารตัวอื่นแต่มีเคตามีนปะปนเล็กน้อยก็ได้แถลงข่าวไปตามข้อเท็จจริงและยังได้เก็บตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์อีกครั้ง ต่อมายังได้เชิญผู้แทน UNODC ร่วมเป็นสักขีพยานในการดำเนินการนำตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ ซึ่งปรากฏผลการตรวจยืนยันผลว่า พบเคตามีนจำนวนเล็กน้อย และก็ได้ทำการขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย และศาลออกหมายจับในข้อหาร่วมกันส่งออกซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ออกไปนอกราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายวิชัย กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่กล่าวหาว่า ไม่มีการสกัดกั้นสารตั้งต้นโซเดียมไซยาไนด์ที่นำมาเป็นส่วนผสมของยาเสพติดโดยการปล่อยลักลอบให้เข้าไปประเทศลาว ซึ่งในภาคเหนือมีการประสานไว้ว่าห้ามส่งออกสารไซยาไนด์ทำให้ทะลักไปทางภาคอีสาน ในกรณีนี้โซเดียมไซยาไนด์ เป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 ภายใต้ พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ผู้ที่จะนำเข้าส่งออกได้ขออนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีใบอนุญาตถูกต้องจึงไม่สามารถจับกุมได้ เพราะไม่ผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติก็จะประสานกับประเทศปลายทางเพื่อขอตรวจสอบ ซึ่งในประเด็นดังกล่าวนี้ ทางสำนักงาน ป.ป.ส. ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหาแนวทางและมาตรการในการควบคุมไม่ให้นำสารดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิด ที่ ป.ป.ส ในวันที่ 31 ตุลาคม นี้


และการสันนิษฐานไว้ก่อนว่าการมีไว้ในครอบครองซึ่งยาบ้าจำนวนหรือปริมาณเท่าใดที่จะให้ “สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ” นั้น ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นอำนาจหน้าที่ของ รมว.สาธารณสุข ที่จะเป็นผู้ออกเป็นกฎกระทรวงของสาธารณสุข เลขาธิการ ป.ป.ส. ไม่มีอำนาจในการออกประกาศดังกล่าวแต่อย่างใด

เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า ในส่วนการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข การจัดตั้ง ศูนย์คัดกรอง สถานพยาบาลยาเสพติดและสถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด ต้องขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข และจะต้องผ่านคณะอนุกรรมการจัดตั้งและควบคุมคุณภาพมาตรฐานศูนย์คัดกรอง สถานพยาบาลยาเสพติด สถานฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด และศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมอนุญาตก่อน ไม่ใช่อำนาจของสำนักงาน ป.ป.ส. ส่วนการขออนุมัติแจ้งข้อหาคดีสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น

ในกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจพบการกระทำความผิดและดำเนินคดีฐานสมคบ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับหมายจับจากศาลแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำหมายจับนั้นไปดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทันทีไม่ได้มีปัญหาหรือต้องรอขออนุมัติสมคบ โดยในส่วนของการขออนุมัติแจ้งข้อหาก็ส่งมาที่เลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งจะมีคณะอนุกรรมการกลั่นกรองพิจารณาคำขออนุมัติฯ ซึ่งมีอธิบดีอัยการสำนักงานคดียาเสพติด สำนักงานอัยการสูงสุดเป็นประธานกลั่นกรองฯ และเสนอเลขาธิการ ป.ป.ส. ซึ่งจะลงนามในคำสั่งทันทีโดยด่วน จึงไม่มีปัญหาอะไรที่จะทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปอันเนื่องมาจากการขออนุมัติสมคบแต่อย่างใด


“การยึดอายัดทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น มีขั้นตอนและกระบวนการ ตั้งแต่การออกคำสั่งตรวจสอบทรัพย์สินและการยึดอายัดทรัพย์สินไว้ชั่วคราวเพื่อป้องกันการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน มีคณะอนุกรรมการตรวจสอบทรัพย์สินทำหน้าที่ตรวจสอบกลั่นกรอง โดยมีอธิบดีอัยการภาคแต่ละภาคเป็นประธาน และเสนอต่อคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน เพื่อมีคำสั่งให้ยึดหรืออายัด เสนอพนักงานอัยการยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งริบทรัพย์สินตกเป็นของกองทุนฯ การยึดอายัดและตรวจสอบทรัพย์สิน มีขั้นตอนและกระบวนการในการดำเนินการซึ่งต้องใช้เวลา ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดใหม่นี้จะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ในที่สุดทรัพย์สินที่ยึดหรืออายัดไว้ก็จะตกเป็นของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย ยังกล่าวอีกว่า การขออนุมัติแจ้งข้อหาคดีสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ไม่ได้มีความล่าช้า เมื่อศาลออกหมายจับข้อหาร่วมกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดแล้ว สามารถที่จะจับกุมตัวผู้ต้องหา และยึดทรัพย์สินได้ทันที ไม่ต้องรอเลขาออกคำสั่งสมคบแล้ว การแจ้งข้อหาสมคบกันกระทำความผิดต้องมาขอหลังจากที่ศาลออกหมายจับแล้ว ซึ่งมาขอภายหลังที่จับกุมและยึดทรัพย์สินไปแล้วก็ได้

งบประมาณบูรณาการด้านยาเสพติด แต่ละหน่วยจะได้รับงบประมาณโดยตรงไปที่หน่วยเอง โดยผ่านสำนักงาน ป.ป.ส. ในฐานะเป็นหน่วยงานเจ้าภาพในการบูรณาการงบประมาณ เพื่อเสนอให้ประธานคณะกรรมการบูรณาการงบประมาณ โดยการที่แต่ละหน่วยงานจะได้งบประมาณเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับกรรมาธิการพิจารณางบประมาณด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” ยันไทยทำถูกต้องปมรั้วลวดหนามบ้านหนองจาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ยันกรณีล้อมรั้วลวดหนาม พื้นที่บ้านหนองจาน ไทยทำถูกต้องภายใต้ข้อตกลงหยุดยิง บอกโฆษก ทบ. แจงรายละเอียด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่กัมพูชาใช้มวลชนมากดดัน เพื่อให้ไทยรื้อลวดหนามบริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว รัฐบาลจะมีแนวทางอย่างไร ว่า พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ชี้แจงแล้ว ก็เป็นไปตามนั้น ส่วนจะมีการเพิ่มมาตรการอะไรหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่าเป็นไปตามที่โฆษกกองทัพบกได้ชี้แจงไปแล้ว เพราะเรื่องนี้เป็นปัญหาที่ยังกระทบกันอยู่ ก็แก้ไขปัญหาไปตามสภาพการณ์ เรายืนยันว่าสิ่งที่เราทำถูกต้องแล้ว และทำทุกอย่างภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงที่ประเทศมาเลเซีย .-315 -สำนักข่าวไทย

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

อุตุฯ เตือนเหนือ-อีสานตอนบน-ใต้ฝั่งตะวันตก ฝนตกหนัก-ลมแรง

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง ส่วนพายุโซนร้อน “คาจิกิ” คาดอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก่อนเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ บริเวณ จ.น่าน เย็นวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่วนภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชน โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ตราด และระนอง ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ปกคลุมบริเวณประเทศลาว ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย […]

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม

25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย