มหาสารคาม 26 มิ.ย.- สสจ.มหาสารคามเผยกรณีชาวบ้านดื่มน้ำปนเปื้อนเกิดอาการป่วยเฉียบพลัน 4 ราย หนึ่งในนี้เด็ก 4 ขวบเสียชีวิต สงสัยเป็นสารพิษกลุ่มยากำจัดศัตรูพืช มีฤทธิ์ทำลายระบบภายใน คาดสัปดาห์หน้ารู้ผลตรวจชัดจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กรณีครอบครัวของ น.ส.นุจรี ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 10 บ้านหนองตูบ ต.หนองโก อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ดื่มน้ำในกระติกมีสารพิษปนเปื้อนโดยไม่รู้ตัวพร้อมลูกสาว อายุ 4 ขวบ และหลานสาวอีก 2 คน อายุ 3 ปี และ 7 ปี หลังจากซื้อส้มตำป่ามากินกันในบ้านพักเมื่อเย็นวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา แล้วเกิดอาการแขนขาอ่อนแรง น้ำลายฟูมปาก ชักเกร็งตาค้าง เพื่อนบ้านได้แจ้งให้หน่วยกู้ชีพ 1669 นำส่งโรงพยาบาลบรบือ โดยเฉพาะลูกสาวของ น.ส.นุจรี ถูกส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาสารคาม เนื่องจากดื่มน้ำเข้าไปมากถึง 3 แก้ว และเสียชีวิตเวลาต่อมา ซึ่งศพได้ตั้งบำเพ็ญกุศลไว้ที่บ้านดังกล่าว มีกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ที่วัดป่าสารญาณมุณี ต.หนองโก อ.บรบือ ส่วนอาการหลาน 2 คน ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์ 1 คน อีกคนปลอดภัยแล้ว
นพ.ภาคี ทรัพย์พิพัฒน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานอาการของผู้ป่วยทั้ง 4 รายแล้ว สันนิษฐานว่าเป็นสารพิษกลุ่มออร์กาโนเฟสเฟต ซึ่งเป็นกลุ่มยากำจัดศัตรูพืช ทำให้มีอาการรูม่านตาขยาย ชีพจรเต้นเร็ว มีสารคัดหลั่งมาก ทั้งเหงื่อ น้ำมูก น้ำลาย รวมทั้งในปอด หลังจากแพทย์ให้การรักษามีอาการดีขึ้นทั้ง 3 ราย พ้นภาวะวิกฤต ส่วนเด็กที่เสียชีวิต อายุ 4 ขวบ มีอาการหัวใจหยุดเต้นก่อนมาถึงโรงพยาบาล สาเหตุจากสารพิษกลุ่มออร์กาโนฟอสเฟตทำลายระบบอวัยวะภายในหลายระบบ เป็นเหตุให้ปอดและหัวใจหยุดทำงาน ทั้งนี้ วันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าน้ำในกระติกน้ำที่ทั้ง 4 ดื่มนั้น มีกลิ่นของยาฆ่าแมลง และตะกอนสีขาวขุ่น ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มยาฆ่าแมลงจะมีกลิ่นฉุนเฉพาะ ขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นสารพิษชนิดดังกล่าวหรือไม่ และปนเปื้อนได้อย่างไร แต่จากการตรวจสอบด้วยตาเปล่าพบความผิดปกติของน้ำที่มีลักษณะขุ่นและมีกลิ่น เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างทั้งน้ำและส้มตำป่าไปตรวจสอบที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข คาดว่าจะทราบผลในสัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย