ขนส่งทางบกยกเครื่องหลักเกณฑ์สอบใบขับขี่

ก.คมนาคม  27 ก.ย. – นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยถึงการเปลี่ยนแปลงแนวทางสอบใบอนุญาตขับรถของประชาชนที่จะมีขึ้นปี 2560 ตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป ว่า กำหนดหลักเกณฑ์ให้ประชาชนที่จะสอบใบอนุญาตต้องผ่านการอบรมและการทดสอบเบื้องต้นจากโรงเรียนสอนขับรถเอกชนที่มีการลงนามเอ็มโอยูกับกรมการขนส่งทางบก  ปัจจุบันมีโรงเรียนได้มาตรฐานและลงนามเอ็มโอยูแล้ว 80  แห่ง  ซึ่งในอนาคตการผ่านอบรมและทดสอบเบื้องต้นจะมีการส่งข้อมูลของผู้ผ่านการอบรมด้วยระบบออนไลน์มาให้กรมการขนส่งทางบก เพื่อป้องกันปัญหาการปลอมแปลงเอกสารการอบรมเพื่อมาขอใบอนุญาตออกใบขับขี่


อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวหลังผ่านการอบรมจากเอกชนแล้วการออกใบอนุญาตยังเป็นหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบก  ซึ่งแนวทางนี้จะลดปัญหาปริมาณผู้ต้องการสอบใบขับขี่ที่ปัจจุบันมีจำนวนมาก ขณะที่กรมการขนส่งทางบกมีข้าราชการฝึกอบรมจำนวนจำกัด  ทำให้มีประชาชนจองคิวเพื่อขอสอบใบอนุญาตจำนวนมากและไม่สอดคล้องความต้องการของประชาชน

ขณะที่ประเด็นการออกกำหนดมาตรฐานการสอบ  ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบกใช้หลักเกณฑ์สอบข้อเขียนที่ผู้สอบต้องทำข้อสอบ 50 ข้อ  โดย 50 ข้อดังกล่าวมีการสุ่มคัดจากฐานข้อมูลจากคำถามที่เตรียมไว้ 1,000  ข้อ และผู้สอบจะผ่านเกณฑ์การสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่า  90 % หรือ  45  ข้อ  ขณะที่ในอนาคตจะมีการปรับฐานข้อมูลข้อสอบให้มากขึ้น  โดยจะมีฐานข้อมูลคำถามรวมทั้งสิ้น  1,600  ข้อ  และเมื่อผู้สอบทำการสอบจะมีการสุ่มคำถามมาให้สอบ 60  ข้อ  ยืนยันว่าปัจุบันการผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 90 % ยังใช้ได้ ไม่ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ว่าผู้สอบจะต้องผ่านเกณฑ์ 100 % ตามที่มีการเผยแพร่  โดยประเด็นนี้น่าจะเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนมาจากเกณฑ์มาตรฐานที่จำนวนข้อมูล 60  ข้อนั้นอาจจะมี 5  ข้อเป็นคำถามเกี่ยวกับการปฏิบัติของผู้ขับขี่ทำให้เกิดความปลอดภัย  ทั้ง  5  ข้อนี้ผู้สอบจะต้องทำถูกทั้งหมด คือ 100 % เนื่องจากเป็นมาตรฐานสำคัญที่ผู้สอบควรจะผ่านเกณฑ์


ส่วนป้ายทะเบียนฝังชิพข้อมูลนั้น  อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ยังเป็นแนวคิดที่จะต้องศึกษาเพิ่ม  เนื่องจากการดำเนินการจะกระทบกับผู้ใช้รถทั่วประเทศ  37  ล้านคัน  ดังนั้น  ต้องมีการศึกษารายละเอียด  ซึ่งกรมการขนส่งทางบกจะดำเนินการต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง