กรุงเทพฯ 28 เม.ย.- กรมการขนส่งทางบก จับมือ ค่ายรถ โตโยต้า-ฮอนด้า เปิดตัว สื่อการเรียนรู้ ใหม่ ด้านการคาดการณ์อุบัติเหตุ เผย พร้อม บรรจุในหลักสูตรอบรมทำใบขับขี่ คาดระยะยาวช่วยลดอุบัติได้ เผย ปี65 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงถึง 1.7 หมื่นคน
นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วยนายสุรภูมิ อุดมวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทโตโยต้ามอเตอร์ประเทศไทยจำกัด และ นายชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทไทยฮอนด้า จำกัด ร่วมกันทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่างกรมการขนส่งทางบกกับบริษัทโตโยต้าฯและบริษัทไทยฮอนด้าฯในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบ “วีดิทัศน์ การคาดการณ์อุบัติเหตุ Hazard Perception” ซึ่งภาคเอกชนทั้ง 2 หน่วยงานจะร่วมกันสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการในการผลิตสื่อการเรียนรู้ทั้งในส่วนของผู้ขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์เพื่อพัฒนาการเรียนรู้การในการคาดการณ์อุบัติเหตุและเสริมสร้างความรู้และทักษะในการคาดการณ์เชิงป้องกันอุบัติเหตุ
ทั้งนี้ จากข้อมูลของศูนย์ข้อมูลกลางด้านการบาดเจ็บกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่าในปี 65 ไทยมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากถึง 17,379 คน คิดเป็นร้อยละ 26.65 ต่อแสนประชากร และจากการเก็บข้อมูลเชิงลึกพบว่าการเกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก มีปัจจัยมาจากความผิดพลาดของผู้ขับขี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการประเมินสถานการณ์อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น กรมการขนส่งทางบกจึงพัฒนาปรับปรุงคุณภาพและมาตรฐานของผู้ขับขี่พร้อมนำเนื้อหาเรื่องการคาดการณ์อุบัติเหตุ มาบรรจุในกระบวนการขอรับใบอนุญาตขับรถซึ่งเนื้อหาดังกล่าวพัฒนาตามหลักวิชาการสากลร่วมกับผลการศึกษาวิเคราะห์ปัญหาความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุบนถนนตามบริบทของไทยซึ่งจะเป็นความรู้ที่ช่วยผู้ขับขี่สามารถประเมินสถานการณ์อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น โดยจะจัดทำเอกสารคู่มือ พร้อมชุดข้อสอบความรู้สำหรับผู้ขอรับอนุญาตขับรถเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อหาที่ผู้ขับขี่ทุกคนจะได้เรียนรู้และจะมีผลอย่างสมบูรณ์ในการขอรับและขอต่ออนุญาตขับรถภายในเดือนมิถุนายนนี้
สำหรับรูปแบบของการคาดการณ์อุบัติเหตุจะมีทั้งหมด 30 ตอนแบ่งเป็นเนื้อหารายละเอียดตามหัวข้อ เช่น การคาดการณ์อุบัติเหตุ ,การขับรถเชิงป้องกันอุบัติเหตุ และข้อแนะนำในการขับขี่รถที่ถูกต้อง ซึ่งกฎหมายบอกจะนำสื่อวีดีทัศน์นี้ไปใช้ในการอบรมให้ความรู้กับผู้ที่จะขอรับและขอต่ออายุใบอนุญาตขับรถ รวมถึงนำไปใช้ประโยชน์ในการให้ความรู้แก่ประชาชนหากต้องการต่างๆด้วย.-สำนักข่าวไทย