ผลสอบปลัด-รองปลัด พม.ผิดวินัยร้ายแรง

พม. 4 พ.ค. -รมว.พม.เผยผลสอบ ปลัด-รองปลัด พม.และข้าราชการอีก 9 คนผิดวินัยร้ายแรง กรณีทุจริตเงินสงเคราะห์ ส่วนผอ.และหัวหน้าฝ่าย ของศูนย์ฯ ขอนแก่น ถูกไล่ออกจากราชการ พิจารณาสำนวนอาทิตย์หน้า 


พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) กล่าวภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการสามัญ(อ.ก.พ.)ประจำกระทรวงฯว่า วันนี้ (4พ.ค.) อ.ก.พ.ได้มีการพิจารณาผลการสอบสวนที่คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงได้สรุปผลสอบศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น โดยลงโทษไล่ออกจากราชการแก่ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และหัวหน้าฝ่ายสวัสดิการสังคม รวม 2 คนซึ่งถือเป็นการลงโทษที่ร้ายแรงที่สุด อ.ก.พ.จึงต้องพิจารณาอย่างละเอียด เพราะการลงโทษคนต้องดูเหตุผลและต้องซักถามคณะกรรมการฯในประเด็นต่างๆ ด้วย จึงใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมงในการพิจารณา โดยจากการหารือพบทั้ง 2 คนมีมูลความผิดจริง จึงเห็นควรให้ไล่ออกจากราชการโดยไม่ได้รับเงินเดือนและสวัสดิการ รวมถึงเงินบำนาญ ตามที่คณะกรรมการฯเสนอ แต่เพื่อให้เกิดความรอบคอบจึงต้องพิจารณา สำนวนอย่างละเอียด ก่อนเห็นควรให้มีการลงโทษสัปดาห์หน้า 


ส่วนความคืบหน้าการสอบสวนทางวินัยร้ายแรงผู้บริหารระดับสูง นายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม.และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.และพวกอีก 24 คนที่อยู่เบื้องหลังการทุจริตเงินสงเคราะห์นั้นวานนี้(3พ.ค.)นายสุภัทร จำปาทอง เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ประธานคณะกรรมการสอบฯ รายงานว่าจากการสอบสวน สรุปพบมีมูลความผิดจริง และผิดวินัยร้ายแรง 11 คน คือนายพุฒิพัฒน์ เลิศเชาวสิทธิ์ ปลัด พม.และนายณรงค์ คงคำ รองปลัด พม.และข้าราชการอีก9 คน ส่วนอีก 15 คนพบไม่มีความผิดจะกันไว้เป็นพยาน โดยจากนี้จะเริ่มทยอยแจ้งข้อกล่าวหาสำหรับคนที่ผิดวินัยร้ายแรงและเปิดโอกาสให้นำหลักฐานที่แสดงความบริสุทธิมาแย้ง ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ได้รับแจ้ง ซึ่งโทษทางวินัยร้ายแรง มีทั้งปลดออกและไล่ออกจากราชการ

สำหรับการตรวจสอบการทุจริตเงินสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ในพื้นที่อื่นๆ คณะกรรมการสอบสวนฯ ทยอยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ส่วนประเด็นที่ล่าช้า เนื่องจากหลักฐานที่มี ได้ส่งมอบไปให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ทั้งหมด จึงต้องลงพื้นที่เก็บและรวบรวมหลักฐานใหม่ ซึ่งต้องใช้เวลา ดังนั้น จึงจะประสาน ป.ป.ท.ขอหลักฐานมาสำเนาเก็บไว้ เพื่อให้การดำเนินการตรวจสอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว .-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง