สธ. 8 เม.ย.-กรมสุขภาพจิต ตั้งคลินิกเสริมพลังใจผู้ปกครองเด็กพิเศษ หลังพบมีความเครียดสูง บางคนสามีห่างเหิน ทะเลาะ หย่าร้างและซึมเศร้า
น.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์หลังตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานของสถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ จ.เชียงใหม่ ว่า สถาบันฯนี้ เป็นศูนย์เชี่ยวชาญระดับประเทศดูแลแก้ไขปัญหาเด็กทุกประเภทที่มีปัญหาด้านพัฒนาการ โดยในปี2560 มีเด็กเข้ารับบริการ 52,000 คนเฉลี่ยวันละ 300 คน กลุ่มโรคที่พบมากที่สุด คือออทิสติก,สมาธิสั้น และสมองพิการ มีผู้ป่วยปีละประมาณ 30,000 คน หรือเกือบร้อยละ 60ของผู้ป่วยทั้งหมด แนวโน้มผู้ป่วยมากขึ้น ได้ให้ปรับปรุงแผนกผู้ป่วยนอกให้มีสภาพคล้ายกับบ้าน ลดขั้นตอนบริการเพื่อลดแออัดและเพิ่มหอผู้ป่วยพิเศษ เพื่อให้เด็กและผู้ปกครองพักระหว่างฟื้นฟูสมรรถภาพด้านสุขภาพกายใจจิตสังคมและสติปัญญา เตรียมพร้อมให้เด็กสามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือเข้าสู่ระบบการศึกษาตามศักยภาพต่อไป
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อพ่อแม่ครอบครัวเพราะต้องคอยช่วยเหลือเด็กทุกด้านในชีวิตประจำวันตลอดเวลา จึงเป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดปัญหาสุขภาพจิตสูงกว่าครอบครัวทั่วไป ทั้งภาระการดูแลเด็ก ค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการพาเด็กเข้าๆออกๆโรงพยาบาล ความไม่เข้าใจกัน ทะเลาะ หย่าร้างกันหรือมีภาวะซึมเศร้าถึงขั้นฆ่าตัวตายได้ สอดคล้องกับผลสำรวจของสถาบันพบว่าผู้ปกครองเด็กป่วยจิตเวช 3 โรคนี้มีความเครียดสูงถึงร้อยละ 64เช่นนอนไม่หลับ กังวลใจ และมีปัญหาสุขภาพจิตร้อยละ 58 เช่นท้อแท้ซึมเศร้าเบื่อหน่ายลูกบางรายสามีห่างเหิน บางครอบครัวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวพบมากถึงร้อยละ 22 เป็นต้น ผู้ปกครองที่มีปัญหาสุขภาพจิตจะมีผลต่อการดูแลลูกและประสิทธิภาพการรักษา จึงมีนโยบายให้เปิดคลินิกดูแลสุขภาพจิตผู้ปกครองเด็กพิเศษควบคู่ไปด้วย
ทั้งนี้ ผลการดำเนินการพบว่าได้ผลดี ช่วยให้ผู้ปกครองคลายความเครียด และส่งผลให้การดูแลเด็กดีขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะเด็กโรคสมาธิสั้นมากกว่า 2ใน 3 มีโอกาสหายขาด หรือมีสมาธิควบคุมตนเองดีขึ้น ได้ให้สถาบันจัด เป็นหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรในเรื่องนี้ เพื่อขยายผลใช้ในโรงพยาบาลจิตเวชทุกแห่งซึ่งจะส่งผลให้เด็กป่วยโรคจิตเวชได้รับการดูแลมีประสิทธิ ภาพยิ่งขึ้น .-สำนักข่าวไทย