นนทบุรี 22 มี.ค. – กระทรวงพาณิชย์เร่งหาแนวทางขอยกเว้นเป็นรายสินค้าจากการถูกใช้มาตรา 232 กับสินค้าเหล็กและอะลูมิเนียม เตรียมนำผลกระทบหารือเวที TIFA เม.ย.นี้
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า จากกรณีที่สหรัฐประกาศใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 กับสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมจากทุกประเทศรวมทั้งไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2561 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐประกาศรายละเอียดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นขอให้ได้รับการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายสินค้า ซึ่งกำหนดให้เฉพาะบุคคลหรือองค์กรที่อยู่ในสหรัฐที่ใช้เหล็กหรืออะลูมิเนียมในกิจกรรมทางธุรกิจ เช่น ก่อสร้าง การผลิต หรือเป็นผู้จัดหาสินค้าเหล็กและอลูมิเนียมให้กับผู้ใช้เท่านั้นที่มีสิทธิ์ยื่นขอให้ได้รับการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายสินค้า โดยเหตุที่จะขอยกเว้นต้องแสดงให้เห็นถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้นำเข้าหรือผู้ใช้ของสหรัฐ หลังจากมีการใช้มาตรการดังกล่าว โดยอาจแสดงให้เห็นความสำคัญของสินค้าจากไทยที่สหรัฐจำเป็นต้องนำเข้าและมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ
ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศได้ประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สมาคมผู้ผลิตท่อโลหะและแปรรูปเหล็กแผ่น ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทยที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศ ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2561 เพื่อชี้แจงให้ทราบถึงหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว และหารือการดำเนินการต่อไป ซึ่งผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยจะร่วมกับผู้นำเข้าสหรัฐที่เป็นพันธมิตรทางการค้า เพื่อยื่นคำขอยกเว้นฯ โดยขอให้ผู้นำเข้าสหรัฐเป็นผู้กรอกข้อมูลคำขอและทั้ง 2 ฝ่ายจะสนับสนุนข้อมูลระหว่างกัน เพื่อแสดงให้เห็นว่าสินค้าที่ส่งออกจากไทยเป็นสินค้าที่ไม่มีการผลิตหรือผลิตไม่เพียงพอในสหรัฐ ซึ่งยังมีความจำเป็นที่สหรัฐต้องนำเข้าเพื่อไม่ให้การใช้มาตรการดังกล่าวกระทบต่อผู้นำเข้าหรือผู้ใช้ภายในสหรัฐ และขณะนี้ทั้งผู้ผลิตและผู้ส่งออกของไทยและผู้นำเข้าในสหรัฐบางส่วนหารือกันแล้ว และผู้ประกอบการบางรายก็จะดำเนินการในส่วนนี้ต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการดำเนินการของภาคเอกชนในการยื่นขอยกเว้นเป็นรายสินค้าแล้ว กระทรวงพาณิชย์ได้มีการติดตามในส่วนของการยกเว้นเป็นรายประเทศ ซึ่งหน่วยงานของสหรัฐ คือ สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐเป็นผู้รับผิดชอบ โดยขณะนี้ยังไม่มีการประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการออกมาแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม กรมการค้าต่างประเทศและหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อจัดเตรียมข้อมูลยื่นขอการยกเว้นจากการถูกใช้มาตรการเป็นรายประเทศ เพื่อให้สหรัฐถอดรายชื่อประเทศไทยจากการใช้มาตรการดังกล่าว รวมทั้งจะหยิบยกปัญหาผลกระทบที่ได้รับจากการใช้มาตรการภายใต้มาตรา 232 ขึ้นหารือในเวทีการประชุม Trade and Investment Framework Agreement (TIFA) เดือนเมษายน 2561 ด้วย.-สำนักข่าวไทย