ยิ่งลักษณ์ วอนยกเลิกคำสั่งทางปกครอง

ศาลฎีกาฯ 7 ต.ค. – “ยิ่งลักษณ์” ขอความเห็นใจยกเลิกคำสั่งทางปกครอง  เรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาท ให้ใช้กระบวนการทางศาลแพ่ง


เมื่อเวลา 09.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อร่วมรับฟังการไต่สวนพยาน ฝ่ายจำเลย นัดที่ 3 ในคดีที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ เป็นจำเลย ฐานความผิดปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งการไต่สวนพยานฝ่ายจำเลยในนัดนี้ ศาลนัดไต่สวนพยาน  2 ปาก คือ นายโอฬาร ไชยประวัติ อดีตประธานผู้แทนการค้าไทย และอดีตที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (น.ส.ยิ่งลักษณ์) และนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว

สำหรับการไต่สวนพยานในคดีนี้ ไต่สวนมาแล้ว 13 นัด  แบ่งเป็นไต่สวนพยานโจกท์ทั้งหมด 14 ปาก จำนวน 10 นัด เริ่มไต่สวนนัดแรก คือวันที่ 5 มกราคม ปี 2559 ไต่สวนพยานจำเลยแล้ว 5 ปาก จากทั้งหมด 42 ปาก รวม  3 นัด  เริ่มไต่สวนนัดแรกวันที่ 5 สิงหาคม ปี 2559 ปัจจุบันเหลือการไต่สวนอีกประมาณ 15 นัด ครบกำหนดการไต่สวนในเดือนมิถุนายนปี 2560


การเดินทางมารับฟังการไต่สวนของอดีตนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ยังคงมีอดีต ส.ส. อดีตรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย  รวมทั้งกลุ่มมวลชนคนเสื้อแดงเดินทางมาให้กำลังใจ  ด้วยการมอบดอกไม้และตะโกนให้กำลังใจอดีตนายกรัฐมนตรี ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีเรียกค่าเสียหายโครงการรับจำนำข้าว 35,000 ล้านบาท ว่า อยากขอความเห็นใจ เพราะโครงการรับจำนำข้าวเป็นการช่วยเหลือชาวนา ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องขอความเป็นธรรมกับคณะกรรมการ  และหน่วยงานต่าง ๆ  ไปหลายครั้งแล้ว การจะใช้คำสั่งทางปกครองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

สำหรับการยื่นขออุทธรณ์คำสั่งเรียกค่าเสียหายจากโครงการจำนำข้าวนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับเอกสาร ต้องรอเพื่อศึกษารายละเอียดอีกครั้ง  การใช้คำสั่งทางปกครองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง อยากให้รัฐบาลรับไปพิจารณา เพราะทุกอย่างต้องอยู่บนข้อเท็จจริง ควรใช้กระบวนการทางศาลแพ่งมากกว่าคำสั่งทางปกครอง เพราะเท่ากับว่าเป็นการตัดสินไปแล้ว กฎหมายมีทางออกให้เลือก 2 ทาง


น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวถึงกรณีที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะกรรมการสอบสวน ถึง 15 คดีว่า อยากให้ทุกหน่วยงานยึดแนวทางของรัฐธรรมนูญที่ต้องปฎิบัติเท่าเทียมกัน  ส่วนที่รัฐบาลตรวจสอบโครงการต่าง  ๆของรัฐบาลที่แล้วนั้น รัฐบาลเป็นผู้นำ และเป็นผู้มีอำนาจ จึงอยู่ที่ผู้มีอำนาจจะคิดและจะทำให้ประชาชนยอมรับ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ศึกชิงนายก อบจ.เพชรบุรี แชมป์เก่ายังแรง

เลือกตั้งนายก อบจ.เพชรบุรี ไม่คึกคัก ผลไม่เป็นทางการ “ชัยยะ อังกินันทน์” แชมป์เก่า คะแนนนำทิ้งห่างคู่แข่ง ด้านเลขาฯ กกต. เผยภาพรวมทั้ง 3 จังหวัด คนมาใช้สิทธิน้อย คาดเบื่อเลือกตั้ง 2 รอบ

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

ลุ้นผลเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ขณะนี้การนับคะแนนตามหน่วยต่างๆ เสร็จสิ้นแล้ว อยู่ในขั้นตอนการรวมคะแนน ซึ่งในเขตเมือง ผลปรากฏว่าผู้สมัครจากพรรคประชาชนมีคะแนนนำ แต่อำเภอรอบนอก ตัวแทนพรรคเพื่อไทยมีคะแนนนำอยู่หลายหน่วยเลือกตั้ง