ประจินต์ สั่งดีเอสไอ แก้คดีภาคประชาชนให้หมดในกลางปีหน้า

ดีเอสไอ 29 ธ.ค. – ประจินต์ สั่งดีเอสไอ เร่งสะสางคดีความเดือดร้อนประชาชนให้หมดภายใน  มิ.ย.ปีหน้า พร้อมสั่งส่งการบ้านปฎิรูปหน่วยงาน 25 ม.ค.ปีหน้า


พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.)ตรวจเยี่ยม และมอบนโยบายการทำงาน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไป โดยมี พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ ให้การต้อนรับ และร่วมรับมอบนโยบายการทำงาน


 พลอากาศเอก  กล่าวหลังการประชุมน่รมกับผู้บริหารดีเอสไอ โดยระบุว่า ได้ให้หลักการบริหารงานโดยเน้นย้ำในเรื่องการอำนวยความยุติธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ เร่งรัดปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น และสร้างกระบวนการยุติธรรมที่ยั่งยืน โดยเน้นการทำงานให้มีความทันสมัยเพราะปัจจุบันบริบทการก่อเหตุเปลี่ยนแปลงไปมาก จึงอยากให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานให้มีความทันสมัย


พร้อมทั้งขอให้ดีเอสไอไปทำเรื่องปฎิรูป เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นกับสังคม สามารถทำงานได้รวดเร็ว และประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นได้อย่างไร้รอยต่อ โดยกำหนดให้ดีเอสไอส่งรายละเอียดเกี่ยวกับการปฏิรูปองค์กรภายในวันที่ 25 มกราคม 2561 หลังได้รับรายงานทิศทางการปฎิรูปของดีเอสไอแล้ว จะส่งให้ผบ.ตร.แสดงความคิดเห็น เพื่อสรุปรายงานส่งให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบว่า ตั้งแต่มีการก่อตั้งดีเอสไอตั้งแต่ปี 2547 ได้มีการพัฒนาองค์กรและพัฒนามาเป็นลำดับขึ้นอย่างไร

นอกจากนี้ยังได้กำหนดมาตรการทำงานเร่งด่วนให้กับดีเอสไอ เร่งดำเนินการในปีหน้า คือ ต้องเร่งแก้ไขปัญหาคดีความเรื่องที่เป็นปัญหากับประชาชน อาทิ เรื่องที่ดิน หนี้นอกระบบ การฉ้อโกง ให้เสร็จสิ้นให้หมดภายในกลางปีนี้ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าคดีในความดูแลของดีเอสไอมีจำนวนมาก การจะทำให้เสร็จตามเป้ากลางปีที่วางไว้ คงเป็นไปได้ยาก จึงขอให้ดีเอสไอเร่งดำเนินการให้ได้มากที่สุด

สำหรับในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา ดีเอสไอได้ดำเนินคดีพิเศษจำนวน 291 คดี และสอบสวนเสร็จ จำนวน 124 คดี เกินจากเป้าที่กำหนดไว้ที่ 120 คดี เมื่อรวมการดำเนินคดีพิเศษทั้งหมดตั้งแต่ปี 2547 จนถึง 2560 รับคดีพิเศษทั้งสิ้น 2,382 คดี สอบสวนเสร็จ 1,997 คดี และเป็นคดีที่อยู่ระหว่างการสอบสวน 385 คดี โดยคดีที่สอบสวนเสร็จ เป็นการส่งพนักงานอัยการ จำนวน 1,601 คดี ส่งสำนักงาน ป.ป.ช. 134 คดี ส่งสำนักงาน ป.ป.ท. 3 คดี และงดสอบสวนหรือเปรียบเทียบปรับ 259 คดี 

มูลค่าความเสียหายที่สามารถเรียกคืนหรือรักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐประชาชนได้ 866 คดี มีมูลค่าความเสียหาย 352,680.630 ล้านบาท สำหรับมูลค่าความเสียหายที่สามารถเรียกคืนหรือรักษาผลประโยชน์ให้แก่รัฐและประชาชนได้ เฉพาะปี 2560 เป็นคดีที่มีมูลค่าฯ 84 คดี มีมูลค่าความเสียหาย 107,220.82 ล้านบาท ซึ่งเกินจากค่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ 15,000 ล้านบาท. –สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง