3 ธ.ค. ยุติสอบสวน 18 บอสดิไอคอนฯ สรุปส่งอัยการลอตแรก

เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ 20 พ.ย.- DSI ขีดเส้น 3 ธ.ค. ยุติสอบสวน 18 บอสดิไอคอนฯ ก่อนสรุปส่งอัยการลอตแรก ด้านโฆษกดีเอสไอ นำทีมเข้าคุกชาย เค้นสอบ 11 บอสชายดิไอคอนฯ พร้อมอัปเดตผลสอบ “กฤษอนงค์” ปมคลิปเสียง 10 ล้านอ้างจ่ายดีเอสไอ


บริเวณด้านหน้าเรือนจำพเศษกรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ หรือกองคดีฮั้วประมูล ในและฐานะโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก เปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่ 11 บอสชายดิไอคอนฯ ว่า ประเด็นที่จะเข้าสอบปากคำผู้ต้องหาในวันนี้คือประเด็นจากมติที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา เพราะพนักงานสอบสวนได้ร่วมกันประชุมแล้วเห็นว่ามีบางประเด็นที่เรามีข้อสงสัย จึงต้องมาสอบสวนปากคำเพิ่มเติมทั้ง 11 บอสชายเพื่อประโยชน์ของพวกเขาเอง ส่วนที่ก่อนหน้านี้ทางทนายความของผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์ว่า มีการให้ปากคำไปแล้ว 48 ชม. ในชั้นตำรวจ ยังไม่ครบถ้วนหรือไม่นั้น ตนต้องเรียนว่ามันยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม สอบสวนในรายละเอียดที่เรารับสำนวนมาแล้ว จึงต้องสอบเพิ่มเติมในทุกข้อกล่าวหา ทั้ง พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ฉ้อโกงประชาชน พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินฯ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากก่อนหน้านี้ 11 บอสชายได้มีการให้การปฏิเสธ จะให้การในชั้นศาล ทั้งนี้ ดีเอสไอไม่ได้ใช้แค่การสอบสวนปากคำผู้ต้องหาเพื่อค้นหาความจริง แต่เป็นเพียงข้อสงสัยบางประการที่เราต้องซักถาม เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ส่วนผู้ต้องหาจะให้การหรือไม่ก็ได้ เป็นสิทธิของผู้ต้องหา

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่ทนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายของบอสพอล จะขอขยายระยะเวลาการยื่นเอกสารแก้ข้อกล่าวหาของบรรดา 18 บอสดิไอคอนฯ ออกไปอีก 15 วัน รวมเป็น 30 วันนั้น ว่า วันนี้เรามาพูดคุยกับเขาให้เข้าใจว่าเบื้องต้นเราให้กรอบเวลา 15 วัน และขยายสิ้นสุดที่วันที่ 3 ธ.ค. ให้เขาได้ไปรวบรวมพยานเอกสารที่ต้องการใช้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตน โดยต้องการให้พวกเขาดำเนินการให้เเล้วเสร็จภายในวันที่ 3 ธ.ค. เพราะดีเอสไอจะได้สรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการตามกรอบเวลา และดีเอสไอจะพิจารณาเท่าที่สำนวนมีอยู่ ส่วนถ้าเขาอยากให้การเพิ่มเติมภายหลังจากนั้น ก็จะต้องยื่นไปยังพนักงานอัยการแทนพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ย้ำว่า เราขยายให้ได้ถึงเพียงวันที่ 3 ธ.ค. เท่านั้น เพราะเป็นกำหนดระยะเวลาว่าจะพิจารณาพยานหลักฐานให้แล้วเสร็จภายในวันนั้น รวมถึงการมีมติ และพิจารณาหลักฐานทั้งฝ่ายผู้กล่าวหา ผู้เสียหาย และผู้ต้องหาด้วย ทั้งนี้ การจะสรุปสำนวนส่งอัยการยังคงมีเพียง 18 รายดังกล่าว ยังไม่มีผู้ต้องหาเพิ่มเติมแต่อย่างใด


ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวต่อว่า สำหรับการสอบสวนปากคำ 18 บอสดิไอคอนฯ ภายในเรือนจำฯ ดีเอสไอได้ดำเนินการแล้ว 2 ครั้ง ภาพรวมทั้งหมดส่วนใหญ่ยังไม่ให้การใด ๆ และยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งอุปสรรคก็เป็นของฝ่ายผู้ต้องหาเอง ไม่ใช่ดีเอสไอ และการเข้าสอบสวนปากคำซ้ำ ก็เพราะว่ามีประเด็นที่พนักงานสอบสวนสงสัยจึงต้องเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติม พนักงานสอบสวนต้องการข้อเท็จจริงจากพวกเขา ถ้าเขาให้การ มันจะเป็นประโยชน์ต่อเขาเองในการใช้ในชั้นศาลได้ด้วย ทั้งนี้ การที่ผู้ต้องหาไม่ให้การกับพนักงานสอบสวนไม่ถือว่ากระทบต่อสำนวนคดี

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ส่วนเรื่องที่ดีเอสไอจะสอบสวนปากคำบอสพอล กรณีเป็นคู่สายสนทนากับ น.ส.กฤษอนงค์ ประเด็นกล่าวอ้างเรื่องการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทผ่านคนกลางนั้น ทราบว่าช่วงบ่ายวันนี้จะมีคณะพนักงานสอบสวนอีกชุดหนึ่งเข้ามาสอบปากคำบอสพอล อีกทั้งกรณีที่วานนี้ (19 พ.ย.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้มีคำสั่งให้อธิบดีดีเอสไอ ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงนั้น ตนขอเรียนว่าเบื้องต้นคณะทำงานที่อธิบดีดีเอสไอได้แต่งตั้ง ได้มีการเข้าไปสอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์ ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเธอให้การยืนยันตามโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คของเธอ แต่ไม่ขอยืนยันในคลิปเสียง เพราะในโพสต์เธอยอมรับว่ามันมีตัวกลางเข้าไปเกี่ยวข้องจริง และเห็นว่าไม่มีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม อธิบดีดีเอสไอ ได้รับดำริจาก รมว.ยุติธรรม ว่าการตรวจสอบ จะตรวจสอบแค่ภายในหน่วยงานไม่ได้ จึงต้องให้บุคคลภายนอกที่เป็นบุคคลที่อยู่ภายในกระบวนการยุติธรรม ที่ประชาชนและสื่อมวลชนเชื่อถือเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อความเป็นกลางและสามารถที่จะชี้ได้ว่าข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นนั้นมันจริงหรือไม่เพื่อตอบสังคมด้วย

เมื่อถามว่ากรณีวานนี้ (19 พ.ย.) ที่มีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้าไปสอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์ กรณีคลิปเสียงสนทนาดังกล่าว สรุปแล้วเธอให้การยืนยันหรือไม่ว่าเป็นคลิปเสียงสนทนาของเธอจริง ๆ ไม่ได้มีการตัดต่อ โดย ร.ต.อ.สุรวุฒิ แจงว่า เธอให้การยืนยันว่าเป็นเพียงบางส่วน แต่รายละเอียดยืนยัน เธอยืนยันตามโพสต์ข้อความบน Facebook ว่าเป็นเหตุการณ์พูดคุยกันเมื่อ 10 ปีที่แล้วภายหลังจากที่สำนวนเสร็จสิ้นแล้ว เธอจึงเล็งเห็นว่าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องให้การเกี่ยวกับบุคคลที่สาม หรือตัวกลาง ส่วนคลิปเสียงสนทนาที่ได้รับมาจากสำนักข่าวที่มีการรายงานนั้น คณะพนักงานสอบสวนได้มีการนำส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจพิสูจน์แล้ว ทั้งนี้ การพิจารณาความเสียหายที่เกิดขึ้นกับชื่อเสียงของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามที่อธิบดีดีเอสไอได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้มี 2 ส่วน คือ ส่วนที่ดีเอสไอเป็นหน่วยงานภาครัฐ พร้อมรับการตรวจสอบ ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้ แต่ถ้าเมื่อตรวจสอบแล้วมันไม่ใช่ เราก็ต้องชี้แจงต่อสังคม ส่วนถ้ามีการพาดพิงต่อหน่วยงานและองค์กร หรือมีผลกระทบความเสียหายหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง นอกจากนี้ ในเรื่องของการตรวจสอบการจ่ายสินบนเทวดาในดีเอสไอ เราได้มีการตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้ และยืนยันไปแล้วว่าไม่มี และอาจจะมีการดำเนินคดีกับส่วนบุคคลภายนอก รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้จะต้องเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน เพราะสำนวนก็ใกล้จะเสร็จแล้ว พอมีเรื่องนี้มากระตุกก็ต้องดำเนินการควบคู่กันไป ทั้งนี้ ถ้าตามหลักการตรวจสอบมีเวลา 30 วัน


ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า กรณีที่มีตัวแทนของดิไอคอนฯ ถูกอายัดบัญชีธนาคารนั้น เรื่องนี้ถือเป็นปัญหา เพราะเป็นบัญชีที่ถูกอายัดตั้งแต่ชั้นตำรวจ โดยระบบของ AOC : Anti Online Scam Operation Center หรือระบบอายัดโดยอัตโนมัติ เนื่องจากเมื่อมีการร้องทุกข์กล่าวโทษแล้ว ระบบจึงอายัดอัตโนมัติ เบื้องต้นอธิบดีดีเอสไอได้มีคำสั่งว่าจะต้องมีการประชุมหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันพรุ่งนี้ให้แล้วเสร็จว่าวิธีการดำเนินการ จะแก้ไขและช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบและไม่เกี่ยวข้องในคดีได้อย่างไร ซึ่งจะเป็นการประชุมโดยด่วน และจะต้องมีการคัดกรองว่าต้องเป็นบัญชีธนาคารที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจริง ๆ หรือคดีความผิดมูลฐาน อันนี้ถึงจะดำเนินการยึดอายัด ส่วนที่ไม่เกี่ยว เป็นเงินลงทุนธรรมดา เราจะต้องเร่งคืนให้เขา ซึ่งการปลดล็อคบัญชีอายัดธนาคารจะต้องดำเนินการให้รวดเร็ว แม้ตำรวจเป็นผู้ดำเนินการอายัดแต่กระบวนการถอนปลดการอายัดบัญชีจะต้องดำเนินการโดยดีเอสไอ ทำให้เราต้องรีบเร่งรัดในการพิจารณา จึงต้องขอให้ทางตำรวจช่วยพิจารณาเพื่อความรวดเร็วประกอบไปด้วย

เมื่อถามว่าตอนนี้กำลังจะเข้าสู่ฝากขังผัด 4 ซึ่งคดีฉ้อโกงประชาชน สามารถยื่นฝากขังต่อศาลได้ 7 ฝาก ดีเอสไอจะค้านประกันตัวยาวถึงฝากที่ 7 เลยหรือไม่ เพราะทนายบอสพอล ได้ระบุว่า ถ้าช่วงฝากขังผัด 5-7 ดีเอสไอไม่ค้านประกัน ถึงจะยื่นขอปล่อยตัวช่วงนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวว่า ในหลักการสอบสวนตามมาตรา 22 วรรคท้าย สำนวนคดีใดที่เป็นของตำรวจให้เป็นส่วนหนึ่งของดีเอสไอ ซึ่งทางตำรวจได้มีการอายัดคัดค้านไว้เรียบร้อยแล้วก็คงไม่มีเหตุคำสั่งเปลี่ยนแปลง ส่วนกรณีที่ทนายความของผู้ต้องหาระบุว่าเป็นอุปสรรคถ้าหากผู้ต้องหาถูกคุมขังอยู่ภายในเรือนจำและมีความจำเป็นต้องต่อสู้คดี ก็เป็นดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ที่ต้องขอยัดตัวเพราะเป็นคดีที่เป็นผลกระทบต่อวงกว้าง.-119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ รายงานตัวต่อสภาแล้ว

รัฐสภา 10 ก.ย.- “3 สส.” บัญชีรายชื่อใหม่ “ทิพานัน-พล.ต.อ.อัศวิน-รุ่งเรือง” รายงานตัวต่อสภาแล้ว พร้อมผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับประเทศ น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้เข้ารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายสุชาติ ชมกลิ่น ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายสุชาติ สิ้นสุดลง จึงประกาศให้ผู้มีชื่อในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรครวมไทยสร้างชาติ เลื่อนขึ้นมาเป็น สส. แทน โดย น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การเป็น สส. คือผู้แทนของประชาชน วันนี้เป็นอีกก้าวหนึ่งที่ได้เป็นตัวแทนในการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งการมีกฎหมายที่ถูกต้องชัดเจนเป็นเรื่องที่ดี และจะทำหน้าที่นี้อย่างดีที่สุด ทั้งนี้มีกฎหมายที่ต้องอยากขับเคลื่อนโดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน รวมถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น เรื่องอากาศที่มีผลกระทบกับคนไทย นอกจากนี้ยังมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ เข้ารายงานตัวต่อสำนักเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เนื่องจากนายธนกร วังบุญคงชนะ ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็น สส.บัญชีรายชื่อ ตั้งแต่วันที่ 8 กันยายน 2568 เป็นเหตุให้สมาชิกภาพของนายธนกร […]

จับตา! ประชุม GBC “ไทย-กัมพูชา” ที่เกาะกง

10 ก.ย.- “ไทย-กัมพูชา” เปิดโต๊ะเจรจา GBC สมัยพิเศษ ที่จังหวัดเกาะกง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม นำคณะผู้แทนระดับสูง ร่วมหารือสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง ลดความตึงเครียด และเดินหน้ามาตรการสร้างสันติสุขชายแดน พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และว่าที่รัฐมนตรีกลาโหม นำคณะผู้แทนไทย เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี คณะผู้แทนประกอบด้วย พลเอก ธราพงษ์ มะละคำ รองปลัดกระทรวงกลาโหม, พลอากาศเอก นนทรี อินทรสาลี รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด, นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ด้านกิจการความมั่นคงภายใน, นายวรณัฐ คงเมือง รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, พลเอก กันตพจน์ เศรษฐารัศมี ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม, พลเอก ธงชัย รอดย้อย เสนาธิการทหารบก, พลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ และพลอากาศเอก วชิระพล […]

อุตุฯ เตือนไทยตอนบนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 10 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือ และตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟล้ม 24 ต้น ทำไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้าพัง

เชียงใหม่ 8 ก.ย.-วินาศสันตะโร กระบะส่งน้ำพุ่งชนเสาไฟฟ้าล้ม 24 ต้น บนถนนหนองฮ่อ อ.เมืองเชียงใหม่ ทำให้ไฟไหม้ร้านอาหาร บ้าน-ร้านค้ากว่า 10 หลัง พังเสียหาย ส่วนรถเสียหายนับสิบคัน ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง อุบัติเหตุเกิดขึ้นช่วงบ่ายที่ผ่านมา หลังรถกระบะบรรทุกน้ำดื่มเอกชนพุ่งชนเสาไฟฟ้าบนถนนหนองฮ่อ ต.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ก่อนถึง สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ ประมาณ 300 เมตร โดยรถกระบะได้พุ่งชนเสาไฟฟ้าจนหักโค่นลงมา ก่อนที่รถจะเกี่ยวเข้ากับสายไฟลากไปอีกหลายสิบเมตร ทำให้สายไฟถูกดึงจนทำให้เสาไฟฟ้าโค่นล้มต่อๆ กันลงมาขวางถนนรวมแล้วกว่า 24 ต้น เสาไฟกิ่งเสียหาย 25 ต้น ทับบ้านเรือนประชาชนและร้านค้าพังเสียหายกว่า 10 หลัง และยังมีรถยนต์ที่จอดไว้ในบ้าน ริมถนน และที่ขับผ่านมา ถูกทับเสียหายเบื้องต้นมากกว่า 10 คัน นอกจากนี้สายไฟฟ้าที่ถูกดึงจนขาดยังทำให้เกิดเพลิงไหม้ร้านอาหารบริเวณดังกล่าวจนวอดเสียหายเกือบทั้งหมด อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้กระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างและสร้างความแตกตื่นตกใจให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก ขณะที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถกระบะสีขาว เป็นรถขนส่งน้ำดื่มอยู่ในสภาพด้านหน้าพังยับ ถังน้ำดื่มตกเกลื่อน พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 คน เป็นพนักงานขับรถและคนงานที่นั่งมาด้วย เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำออกมาจากรถนำส่งโรงพยาบาล โดยพนักงานที่นั่งมาด้วยบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่ต้องปั๊มหัวใจก่อนเร่งนำส่งโรงพยาบาล […]