พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.- “ธนพร” อวยหน้าตา “ครม.หนู 1” ซุปเปอร์ว้าว ตั้งท่าเป็นพรรคใหญ่ “Neo-Conservative” ปรับภาพพรรคอนุรักษ์นิยม แนะ พรรคน้ำเงินฉวยโอกาส 4 เดือนพิสูจน์ ให้ประชาชนเห็นเพื่อไปต่อในการเลือกตั้งสมัยหน้า
นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย กล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าซุปเปอร์ว้าว เพราะถ้าตนเป็นพรรคสีส้ม ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายก้าวหน้า ซึ่งชอบการถกเถียงและมีจุดอ่อนในเรื่องนี้ โดยเข้าข่าย No action talk only และจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีประสบการณ์ในการทำงานจริง ขณะที่พรรคการเมืองสีน้ำเงินเมื่อเปิดตัวบุคคลความเชื่อมั่นเกิด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ลงมือทำจริงและมีประสบการณ์จริง ดังนั้นจะเห็นคู่เทียบในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งตนฟันธงว่าพรรคสายสีน้ำเงิน กำลังจะยกระดับไปสู่ Neo conservative ซึ่งเป็นสัญญาณแรงที่ส่งไปยังพรรคสีส้ม ดังนั้นสาวกสีส้มคนใดที่เคยอกหักจากพรรคตัวเอง ตนไม่รู้ว่าวันนี้ท่านจะต้องคิดใหม่หรือไม่ แต่ในเชิงปรากฏการการตั้งรัฐบาลอย่างโปร่งใส แปลว่าให้สังคมช่วยนายอนุทินในการตรวจสอบ ใครมานั่งกินกาแฟ สื่อมวลชนได้เห็นก็มีการตรวจสอบสตอรี่เรื่องราวของชีวิต แปลว่านายอนุทินกำลังใช้กระบวนการการมีส่วนร่วมทางอ้อมในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งการเมืองไทยเราไม่เคยเห็นการตั้งครม.แบบนี้ ส่วนใหญ่การตั้งครม. เต็มไปด้วยโควตาการต่อรอง เราไม่ได้พอใจการเมืองเต็มร้อย แต่สิ่งที่พรรคสีน้ำเงินพยายามทำ คือการยกระดับพรรคอนุรักษ์นิยมแบบดั้งเดิม ที่หลายคนมองว่าเป็นพรรคบ้านใหญ่ ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เป็น Neo conservative ซึ่งถือเป็นโมเดลทางการเมืองที่น่าสนใจ
นอกจากนี้ ประเด็นความหนักแน่นของนายอนุทิน ที่ไม่ได้หวั่นไหวไปกับหัวโขน คือกล้าประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภาภายใน 4 เดือน ซึ่งตนอยากเห็นตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และตนอยากให้สื่อมวลชนนับถอยหลังเกาะติดการยุบสภาให้ชาวบ้านได้เห็น เพราะการนับหนึ่งชัดเจนตั้งแต่วันแถลงนโยบาย และนายกรัฐมนตรีก็พูดเอง และอีกหนึ่งคือวันนี้ที่จะทำให้ประชาชนได้เห็นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการได้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาเยอะ ตนมั่นใจว่าทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าเราจะทำประชามติกี่ครั้งจะได้เห็น action plan จากพรรคสีน้ำเงิน ตนจึงรอฟังอยู่ในวันแถลงนโยบายตามแนวทางของรัฐบาล แต่ทั้งนี้ 4 เดือนนี้จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ ว่าพรรคสีน้ำเงินทำได้ และจะเป็นโจทย์กับคนไทย ว่าจะให้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ซึ่งหากพรรคสีน้ำเงินฉวยโอกาสนี้ได้โอกาสที่คนไทยจะให้ไปต่อก็มีสูง
ส่วนที่มีนักข่าวถามว่า ตนทำนายไม่แม่น นายอนุทิน และพรรคสีน้ำเงินจะไม่ได้นั้น นายธนพร กล่าวว่า หากย้อนไปดูในวันดังกล่าว ซึ่งมีการแก้เกมกัน และพรรคเพื่อไทย พยายามลากทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่เราเห็นการแก้เกมของพรรคสีน้ำเงินคือไม่ต้องพูดอะไร เพราะหากพูดต่อจะทำให้วุ่นวาย และสุดท้ายจะทำให้ไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสิ่งที่ตนเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าระวังเกมป่วน และพรรคสีน้ำเงินคงฟังและวางแผนรับมือ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของแทคติกในการประชุมสภา และ การที่ประชาชนได้เห็นการถ่ายทอดสดแบบนี้บ่อยถือว่าเป็นประโยชน์จะได้ตามทันนักการเมือง -สำนักข่าวไทย