สนช.รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะและร่างพ.ร.บ.เงินคงคลัง

รัฐสภา 8 ธ.ค.- สภานิติบัญญัติแห่งชาติ รับหลักการวาระ 1 ร่างพ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ และร่างพ.ร.บ.เงินคงคลัง เพื่อเพิ่มเติมอำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงินให้บริหารสภาพคล่องของเงินคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ และร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง ตามที่คณะรัฐมนตรีเป็นผู้เสนอ 

นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ ปี 2548 เกี่ยวกับการเพิ่มอำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงิน และกำหนดวิธีการและกรอบวงเงินในการกู้เงิน เพื่อบริหารสภาพคล่องของเงินคงคลังให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และกำหนดให้อำนาจแก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในการขยายเวลาการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดทุนงบประมาณ หรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ออกไปภายหลังวันสิ้นปีงบประมาณ เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารจัดการเงินคงคลัง ส่วนร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลัง เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเงินคงคลัง พ.ศ.2491 เพื่อกำหนดให้กระทรวงการคลังสามารถสั่งจ่ายเงินจากบัญชีเงินคงคลังบัญชีที่ 2 เพื่อชำระคืนเงินต้นของตั๋วเงินคลังที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อบริหารสภาพคล่องให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 


ขณะที่ สมาชิก สนช. ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับหลักการ แต่ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการขอขยายเวลาการกู้เงิน เพื่อชดเชยการขาดทุนงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ออกไปภายหลังวันสิ้นปีงบประมาณ หรืองบประมาณเหลื่อมปี ควรมีการกำหนดระยะเวลาให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีการเบิกจ่ายงบประมาณไม่ทันภายในปีงบประมาณมากจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาในการบริหารงบประมาณประเทศในอนาคต 

จากนั้น ที่ประชุม สนช.มีมติเอกฉันท์รับหลักการวาระ 1 ร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะด้วยคะแนน 186 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง พร้อมตั้งกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา จำนวน 17 คน กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน ระยะเวลาการดำเนินงาน 60 วัน และมีมติเอกฉันท์รับหลักการวาระ 1 ร่างพระราชบัญญัติเงินคงคลังด้วยคะแนน 188 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง โดยมอบหมายคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะพิจารณา กำหนดแปรญัตติภายใน 7 วัน ระยะเวลาการดำเนินงาน 60 วัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง

“เอกภพ” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับ

“เอกภพ สายไหมต้องรอด” เข้าพบ พนง.สอบสวน หลังถูกออกหมายจับปมพยานเท็จดิไอคอน ยันบริสุทธิ์ใจ หากช่วยเหลือประชาชนแล้วโดนจับก็พร้อมรับ