พบคนไทยมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง 14 ชั่วโมง/วัน

กรมอนามัย 7ธ.ค.-กรมอนามัย พบคนไทยมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง 14 ชั่วโมงต่อวัน แนะแต่ละกลุ่มวัยมีกิจกรรมทางกาย  กลุ่มเด็กปฐมวัย 0-5 ปีอย่างน้อย180 นาทีต่อวัน ,เด็กวัยเรียนวัยรุ่น 60 นาทีต่อวัน วัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ 150 นาที รวมทั้งลดการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือการดูโทรทัศน์ 


นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในงานแถลงข่าวการส่งเสริมกิจกรรมทางกายสำหรับประชาชน ณ ห้องประชุมกำธร สุวรรณกิจ กรมอนามัย ว่า จากผลสำรวจสถานการณ์การมีกิจกรรมทางกายของประชาชนไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า ประชาชน 1 ใน 3 มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่นจำนวนถึง 2ใน 3 มีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอ แต่กลับมีพฤติกรรมเนือยนิ่งมากถึง14 ชั่วโมงต่อวัน  ซึ่งพฤติกรรมเนือยนิ่ง  หรือการนั่งติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน  จะส่งผลต่อการเจ็บป่วยและเสียชีวิตจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดหัวใจและสมองการแก้ไข


นพ.วชิระ กล่าวว่า ปัญหาการมีกิจกรรมทางกายไม่เพียงพอของประชาชนที่ผ่านมา กรมร่วมกับภาคีวิชาการได้ศึกษาพัฒนาข้อแนะนำการมีกิจกรรมทางกายในประชาชนแต่ละกลุ่มวัย ได้แก่ สตรีตั้งครรภ์และหลังคลอดเด็กปฐมวัย วัยเรียนวัยรุ่น วัยทำงาน และวัยสูงอายุ โดยการทบทวนหลักฐานทางวิชาการทั้งในและนอกประเทศและประชุมผู้เชี่ยวชาญจนได้ข้อแนะนำที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตของคนไทยและสื่อสารเผยแพร่ให้ประชาชนนำไปปรับใช้เพื่อสุขภาพที่ดี

ด้านนพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผอ.สำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การมีกิจกรรมทางกายของประชาชนแต่ละกลุ่มวัยมีความแตกต่างกัน โดยกลุ่มหญิงตั้ง ครรภ์สามารถมีกิจกรรมทางกายได้เหมือนคนปกติแต่มีข้อควรระวังในบางไตรมาส ,ขณะที่เด็กปฐมวัย0-5 ปีควรมีกิจกรรมทางกายหนักเบาผสม ผสานกันอย่างน้อย180 นาทีต่อวัน ,เด็กวัยเรียนวัยรุ่น ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลางถึงหนักอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน,


วัยผู้ใหญ่และวัยสูงอายุ ควรมีกิจกรรมทางกายระดับปานกลาง อาทิ การเดินไปตลาด การปั่นจักรยานไปทำงาน การทำงานบ้าน อย่างน้อย 150 นาที หรือระดับหนัก อาทิการวิ่ง การว่ายน้ำรำวงย้อนยุค อย่างน้อย75นาที สัปดาห์  รวมทั้งฝึกสมดุลร่างกายเพิ่มเติมในผู้สูงวัย และลดการใช้โทรศัพท์มือถือ หรือการดูโทรทัศน์ ให้น้อยที่สุด.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง