กรุงเทพฯ 13 พ.ย.- ศาลพิพากษาประหารชีวิต 4 จำเลยร่วมกันฆ่าสองพี่น้อง หลังบุกบ้านทวงค่าน้ำประปาแต่ไม่สำเร็จ แต่ให้การเป็นประโยชน์ ยกโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมจ่ายค่าสินไหมทดแทน 1.5 ล้านบาท ส่วนจำเลยอีก 1 ยกฟ้อง
ศาลอาญาพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายไพฑูรย์ หรือ ต้อม พวงมาลา อายุ 35 ปี นายพันธิต หรือ เลิฟ ขันทอง 21 ปี นายมาโนช หรือ โน้ต ทองทา อายุ 29 ปี นายอภินันท์ หรือ แบงค์ จันทะเนาว์ อายุ 23 ปี นายจิระ หรือ แม็ค บัวโค้ง อายุ 26 ปี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุสมควร โดยกระทำในเวลากลางคืนและประทุษร้าย ร่วมกันพกพาอาวุธมีด จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลขังไว้ระหว่างการพิจารณา คดีนี้ญาติผู้ตายเป็นโจทก์ร่วม และเรียกค่าสินไหมทดแทนตาม ป.วิอาญา มาตรา 44/1
เหตุเกิดวันที่ 21 ตุลาคม 2559 เวลากลางคืน พวกจำเลยบังอาจเข้าไปในบ้านเช่า เลขที่ 67/22 ลาดพร้าว 35 จันทรเกษม ของนายปฐมพงษ์ ภูมิภาค อายุ 48 ปี และนายนิยม ภูมิภาค อายุ 55 ปี สองพี่น้อง แล้วทวงค่าน้ำประปาที่ค้าง แต่มีปากเสียงจึงทำร้ายร่างกาย แล้วพวกจำเลยที่พกพาอาวุธมีดได้แทงนายปฐมพงษ์ กับนายนิยม จนเสียชีวิต จากนั้นจึงหลบหนี ตำรวจติดตามจับกุมได้ที่ จ.ร้อยเอ็ด
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่าโดยคิดทบทวน จึงเป็นการไตร่ตรองไว้ก่อน เป็นความผิดตามฟ้อง ลงโทษประหารชีวิตจำเลยที่ 1, 2, 3 และ 5 แต่คำให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต ปรับคนละ 500 บาท และให้จำเลยที่ 1, 2, 3, 5 ใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 1.5 ล้านบาท ส่วนจำเลยที่ 4 ยกฟ้อง เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐาน ยืนยันว่า ร่วมลงมือทำร้ายผู้เสียหายทั้งสอง.-สำนักข่าวไทย