จี้ สตช.แถลงข่าวให้ทราบการติดตามตัวจำเลยคดีตากใบ

รัฐสภา 16 ต.ค. – สส.ชายแดนใต้ พรรคประชาชาติ ห่วงความรู้สึกครอบครัวผู้สูญเสียในคดีตากใบ เผยเหลือเวลา 9 วัน วอนรัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี จี้ สตช. แถลงข่าวให้ทราบการติดตามตัว ยกสังคมสงสัยจดหมายส่งมาอย่างไร หวังเพื่อไทยชี้แจง


นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย สส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาชาติ แถลงถึงความห่วงใยของพรรคประชาชาติ ต่อกรณีตากใบ และขอแสดงจุดยืนความเป็นห่วง ในฐานะที่มี สส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด ว่าเข้าใจในความรู้สึกของบรรดาประชาชนในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนของประเทศที่มีความห่วงใยที่ติดตามสถานการณ์ของคดีตากใบ ที่ได้ดำเนินการมาจะเข้าสู่ 20 ปี ในอีกไม่กี่วันนี้

ทั้งนี้ หัวใจของพรรคประชาชาติมีความหนักแน่นในการเรียกร้องความยุติธรรมห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้เสียชีวิต 85 ราย ทุพพลภาพ 51 ราย และมีผู้ถูกคุมตัว กว่า 1,280 ราย พรรคประชาชาติขอเน้นย้ำว่าความห่วงใยที่ประชาชนมีมาให้ทางพรรคนั้นได้เป็นกำลังในการขับเคลื่อนทั้งการเมืองในเวทีรัฐสภา และใช้อำนาจบริหารในการเรียกร้องไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม ด้วยศักยภาพและความสามารถอย่างถึงที่สุด พรรคประชาชาติขอเรียกร้องให้บรรดาจำเลยทั้ง 7 คน และผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ ในการจรรโลงความยุติธรรมที่สังคมเพียรหาให้ลุล่วงไปด้วย


นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 9 วัน ก็ครบ 20 ปี ครบอายุความคดีตากใบ พรรคประชาชาติไม่ได้ละเลยและทอดทิ้งกับเรื่องเหล่านี้ เรายังติดตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการพิจารณาคดีมาโดยตลอด สิ่งที่เราจะเรียกร้องแม้ว่าเราจะอยู่ร่วมรัฐบาล แต่อยากเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้า ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคม ศาลจังหวัดนราธิวาสได้นัดสอบคำให้การจำเลย แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 7 คน ที่มีหมายจับ ไม่มีใครเดินทางไปศาล แต่ศาลยังไม่ได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลจังหวัดนราธิวาสยังมีนัดสอบคำให้การจำเลยอีกครั้งในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ แต่อายุความของคดีตากใบมีถึงแค่วันที่ 25 ตุลาคม จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าในการติดตามคดีนี้ ศาลจังหวัดนราธิวาสมีความห่วงใยส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหมายจับไปที่หน่วยงานที่ศาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามหมายจับ

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าศาลก็อยากให้กระบวนการยุติธรรมตรงนี้ไปต่อ จึงขอวิงวอนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมจำเลยผู้ต้องหาไปถึงไหนบ้าง ให้สังคมได้รับทราบได้รับรู้และขอวิงวอนอย่านำประเด็นที่ใกล้ขาดอายุความโยนความผิดให้กับประชาชนที่เรียกร้องความยุติธรรม แม้หลายคนพยายามโยงว่าทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนที่คดีจะขาดอายุความ เพราะคดีตากใบได้รับเงินเยียวยาไปแล้วในปี 2556 จึงขอชี้แจงว่าการเยียวยาที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้ทำให้คดีอาญาถูกระงับ ดังนั้นจึงสามารถเรียกร้องสิทธิทางอาญาได้

“ระยะเวลาที่เหลือ 9 วัน พรรคประชาชาติมีความห่วงใยในฐานะที่อยู่ในพื้นที่อยากให้กระบวนการยุติธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำตัวจำเลยและผู้ต้องหา หรือจำเลยหรือผู้ต้องหาที่ฟังอยู่ สามารถไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่าน ไม่ได้หมายความว่าศาลประทับฟ้องแล้ว ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ท่านจะเป็นผู้กระทำความผิด แต่อยากให้ท่านเดินหน้าผดุงความยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าก่อให้เกิดเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ เราเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่จากอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคต ที่จะกลายเป็นเงื่อนไขใหม่กับกรณีคดีตากใบ” นายกมลศักดิ์ กล่าว


ส่วนหากจำเลยทั้งหมดไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทางรัฐบาลไม่มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามตัวกลับมา หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติเป็นห่วง สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คืออยากเห็นหน่วยงานที่รับผิดชอบแถลงข่าวให้ชัดเจนว่าการติดตามจับกุมไปถึงไหนอย่างไร เราในฐานะที่เป็นพรรคประชาชาติ ถ้าหลังจากวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ไม่สามารถจะจับกุมอะไรได้เลย และศาลไม่สามารถสืบพยานได้ อัยการไม่สามารถส่งฟ้องได้ เราเป็นห่วงสถานการณ์ในฐานะพรรคประชาชาติ

ขณะที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประสานงานให้มีการติดตามจับกุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นการทวงถามฝ่ายเดียว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ

นายกมลศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ไม่ขอก้าวก่าย แต่ระบุว่ามีประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ซึ่งต้องมีการชี้แจงต่อสังคม ไม่เข้าใจว่าหนังสือลาออกส่งมาได้อย่างไร ส่วนตัวตอนที่อยู่สภาฯ ไม่ค่อยได้เจอ พล.อ.พิศาล เนื่องจากอยู่คนละกรรมาธิการ แต่อาจจะมีการเดินสวนทางกันในห้องประชุม แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“โชต้า” แข้งลิเวอร์พูล ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต

สเปน 3 ก.ค. – “ดิโอโก้ โชต้า” กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล และทีมชาติโปรตุเกส เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุระหว่างการพักผ่อนที่ประเทศสเปนกับน้องชาย “มาร์ก้า” สื่อชื่อดังของสเปน รายงานข่าวว่า ดิโอโก้ โชต้า กองหน้าสโมสรลิเวอร์พูล วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้ว หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ที่จังหวัดซาโมรา ทางตะวันตกของประเทศสเปน ระหว่างการเดินทางไปพักผ่อนกับ อังเดร น้องชาย เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณกิโลเมตรที่ 65 ของทางหลวงสาย เอ-52 ใกล้เขตซานาเบรีย โดยโชต้าอยู่ในรถคันดังกล่าวพร้อมกับอังเดร น้องชายวัย 26 ปี ซึ่งเป็นนักฟุตบอลอาชีพเช่นกัน และเล่นให้กับสโมสรเปนาฟีแอล ในลีกโปรตุเกส รถยนต์ที่ทั้งสองโดยสาร ประสบเหตุหลุดออกจากถนนและเกิดเพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรง มีพยานในที่เกิดเหตุโทรแจ้งหน่วยฉุกเฉินหมายเลข 112 ระบุว่า รถถูกไฟคลอกทั้งคัน ดิเอโก้ โชต้า ย้ายจากวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส มาร่วมทัพลิเวอร์พูลในปี 2020 ด้วยค่าตัวราว 44.7 ล้านยูโร ราว 1,700 […]

สั่งปิดประชุมสภาฯ หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม

รัฐสภา 3 ก.ค. – การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันแรก ประเดิมด้วยกระทู้สดเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และขณะนี้ประธานสั่งปิดประชุมแล้ว หลัง สส. เสนอนับองค์ประชุม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ประเดิมด้วยการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา เรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชนชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.ณัฐพล นาคพานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาการ รมว.กลาโหม เป็นผู้ชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังมีกรณีคลิปเสียงของนายกรัฐมนตรีคุยกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โดยระบุว่าขณะนี้มีสัญญาณดี กัมพูชายอมคุยด้วยแล้ว ทางฝ่ายระดับสูงของกัมพูชาเริ่มมีการคุยว่า เชิญไปประชุมทวิภาคี จีบีซี หารือ 2 ประเด็น ถอนกำลังพล-ลดเข้มงวดมาตรการชายแดน แต่ด้วยสถานการณ์ทางด้านโซเชียลฯ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาทำให้การพูดคุยในเรื่องเงื่อนไขเราก็ยังไม่เป็นที่ตกลงกัน ขอเรียนว่า มีสัญญาณบวกและวัตถุประสงค์ที่รัฐบาลยังคงมาตรการในการควบคุมด่านอยู่ มีไว้เพื่อสร้างแรงกดดันที่ต้องใช้อย่างเหมาะสม ยืนยันกองทัพทำตาม นโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้หลังการถามกระทู้ ที่ประชุมเตรียมพิจารณารายงานของกองทุนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้เสนอที่ประชุมให้นับองค์ประชุม เพื่อตรวจสอบจำนวน สส.ภายในห้องประชุม ซึ่งขณะนี้มี […]

ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง

ทำเนียบ 3 ก.ค.-ครม. มอบ “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ เบอร์หนึ่ง มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกฯ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ เรื่องการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ โดยมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ตามลำดับดังนี้1.นายภูมิธรรม เวชยชัย2.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ3.นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค4.นายพิชัย ชุณหวชิร5.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ทั้งนี้ ในการรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ผู้รักษาราชการแทนของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี จะมีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี และมีอำนาจหน้าที่ในการเป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการ หรือองค์กรใด ส่วนในกรณีที่ผู้รักษาราชการแทนตาม 2-5 จะสั่งการใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลและการอนุมัติเงินงบฯ อันอยู่ในอำนาจของนายกรัฐมนตรี ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ กองอาลักษณ์ฯ เห็นว่า การเสนอ ครม. พิจารณาการมอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีดังกล่าว เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกฎหมายและเป็นอำนาจของ ครม. ตามความในมาตรา 41 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ดังนั้น จึงเห็นควรเสนอ ครม. ต่อไป […]

เจ้าอาวาสวัดม่วง ยันบริสุทธิ์ใจ ยินดีให้ตรวจสอบ

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – เจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ ลงพื้นที่วัดม่วง ตรวจสอบกรณีเงินสด 10 ล้าน และทองคำ 300 บาท หายไป เจ้าอาวาสวัด เผยบริสุทธิ์ใจ ยอมเสียเงินดีกว่าเสียชื่อเสียง ยืนยันแยกบัญชีส่วนตัวกับบัญชีวัด โดยบัญชีวัดจะมีคณะกรรมการและไวยาวัจกรดูแล ส่วนเงินที่หายไป เป็นเงินส่วนตัวที่จะนำไปใช้ทำบุญวันเกิด ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ เดินเข้ามาภายในวัดม่วง ซอยเพชรเกษม 63 ถนนเพชรเกษม แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ โดยปฏิเสธให้ข้อมูล เบื้องต้นตอบเพียงว่าเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลการเงินของวัด หลังปรากฏข่าวออกไป เจ้าอาวาสวัดม่วง บอกว่าเงินที่หายไปเป็นปัจจัยที่เบิกมา เพื่อเตรียมนำมาทำบุญวันเกิด โดยจะนำเงินส่วนนี้ไปแจกให้กับเด็กนักเรียน และนำไปนิมนต์พระมาทำบุญ รวมถึงจะนำบางส่วนไปใช้ในการก่อสร้างเจดีย์ โดยวันที่ไปเบิกเงินที่ธนาคารไปกับคนสนิท 2 คน และเบิกเงินจำนวน 10 ล้านบาท หลังจากนั้นเดินทางกลับ และนำปัจจัยใส่กระเป๋าวางไว้ใต้โต๊ะในกุฏิ เนื่องจากภายในเซฟมีการเก็บเงินของวัดไว้ จึงไม่ต้องการนำไปรวม ตนเองเองรู้ที่เก็บเงินเพียงคนเดียว ยืนยันมีการแยกบัญชีเงินส่วนตัวและเงินของวัด ในส่วนของวัดจะมีกรรมการและไวยาวัจกรดูแล แต่เงินของตัวเองซึ่งเก็บมากว่า 40 ปี มีอยู่ประมาณ […]