จี้ สตช.แถลงข่าวให้ทราบการติดตามตัวจำเลยคดีตากใบ

รัฐสภา 16 ต.ค. – สส.ชายแดนใต้ พรรคประชาชาติ ห่วงความรู้สึกครอบครัวผู้สูญเสียในคดีตากใบ เผยเหลือเวลา 9 วัน วอนรัฐบาล-หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามตัวจำเลยกลับมาดำเนินคดี จี้ สตช. แถลงข่าวให้ทราบการติดตามตัว ยกสังคมสงสัยจดหมายส่งมาอย่างไร หวังเพื่อไทยชี้แจง


นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ สส.พรรคประชาชาติ พร้อมด้วย สส.ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พรรคประชาชาติ แถลงถึงความห่วงใยของพรรคประชาชาติ ต่อกรณีตากใบ และขอแสดงจุดยืนความเป็นห่วง ในฐานะที่มี สส. 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มากที่สุด ว่าเข้าใจในความรู้สึกของบรรดาประชาชนในพื้นที่ และพี่น้องประชาชนของประเทศที่มีความห่วงใยที่ติดตามสถานการณ์ของคดีตากใบ ที่ได้ดำเนินการมาจะเข้าสู่ 20 ปี ในอีกไม่กี่วันนี้

ทั้งนี้ หัวใจของพรรคประชาชาติมีความหนักแน่นในการเรียกร้องความยุติธรรมห่วงใยต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผู้เสียชีวิต 85 ราย ทุพพลภาพ 51 ราย และมีผู้ถูกคุมตัว กว่า 1,280 ราย พรรคประชาชาติขอเน้นย้ำว่าความห่วงใยที่ประชาชนมีมาให้ทางพรรคนั้นได้เป็นกำลังในการขับเคลื่อนทั้งการเมืองในเวทีรัฐสภา และใช้อำนาจบริหารในการเรียกร้องไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม ด้วยศักยภาพและความสามารถอย่างถึงที่สุด พรรคประชาชาติขอเรียกร้องให้บรรดาจำเลยทั้ง 7 คน และผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อทำให้ความจริงปรากฏ ในการจรรโลงความยุติธรรมที่สังคมเพียรหาให้ลุล่วงไปด้วย


นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังเหลือเวลาอีก 9 วัน ก็ครบ 20 ปี ครบอายุความคดีตากใบ พรรคประชาชาติไม่ได้ละเลยและทอดทิ้งกับเรื่องเหล่านี้ เรายังติดตามกระบวนการยุติธรรม กระบวนการพิจารณาคดีมาโดยตลอด สิ่งที่เราจะเรียกร้องแม้ว่าเราจะอยู่ร่วมรัฐบาล แต่อยากเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้า ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคม ศาลจังหวัดนราธิวาสได้นัดสอบคำให้การจำเลย แต่ปรากฏว่าจำเลยทั้ง 7 คน ที่มีหมายจับ ไม่มีใครเดินทางไปศาล แต่ศาลยังไม่ได้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ ศาลจังหวัดนราธิวาสยังมีนัดสอบคำให้การจำเลยอีกครั้งในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ แต่อายุความของคดีตากใบมีถึงแค่วันที่ 25 ตุลาคม จึงเป็นที่น่าสังเกตว่าในการติดตามคดีนี้ ศาลจังหวัดนราธิวาสมีความห่วงใยส่งหนังสือสอบถามความคืบหน้าของการปฏิบัติตามหมายจับไปที่หน่วยงานที่ศาลมีคำสั่งให้ปฏิบัติตามหมายจับ

ดังนั้น นี่คือสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าศาลก็อยากให้กระบวนการยุติธรรมตรงนี้ไปต่อ จึงขอวิงวอนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าในการติดตามจับกุมจำเลยผู้ต้องหาไปถึงไหนบ้าง ให้สังคมได้รับทราบได้รับรู้และขอวิงวอนอย่านำประเด็นที่ใกล้ขาดอายุความโยนความผิดให้กับประชาชนที่เรียกร้องความยุติธรรม แม้หลายคนพยายามโยงว่าทำไมเพิ่งมาฟ้องตอนที่คดีจะขาดอายุความ เพราะคดีตากใบได้รับเงินเยียวยาไปแล้วในปี 2556 จึงขอชี้แจงว่าการเยียวยาที่เกิดขึ้นตอนนั้นไม่ได้ทำให้คดีอาญาถูกระงับ ดังนั้นจึงสามารถเรียกร้องสิทธิทางอาญาได้

“ระยะเวลาที่เหลือ 9 วัน พรรคประชาชาติมีความห่วงใยในฐานะที่อยู่ในพื้นที่อยากให้กระบวนการยุติธรรม อยากให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำตัวจำเลยและผู้ต้องหา หรือจำเลยหรือผู้ต้องหาที่ฟังอยู่ สามารถไปพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของท่าน ไม่ได้หมายความว่าศาลประทับฟ้องแล้ว ตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว ท่านจะเป็นผู้กระทำความผิด แต่อยากให้ท่านเดินหน้าผดุงความยุติธรรมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อย่าก่อให้เกิดเงื่อนไขขึ้นมาใหม่ในพื้นที่ เราเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่จากอดีต ปัจจุบัน ถึงอนาคต ที่จะกลายเป็นเงื่อนไขใหม่กับกรณีคดีตากใบ” นายกมลศักดิ์ กล่าว


ส่วนหากจำเลยทั้งหมดไม่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และทางรัฐบาลไม่มีความกระตือรือร้นที่จะติดตามตัวกลับมา หลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไรต่อ นายกมลศักดิ์ กล่าวว่า นี่คือสิ่งที่พรรคประชาชาติเป็นห่วง สิ่งที่อยากเห็นตอนนี้คืออยากเห็นหน่วยงานที่รับผิดชอบแถลงข่าวให้ชัดเจนว่าการติดตามจับกุมไปถึงไหนอย่างไร เราในฐานะที่เป็นพรรคประชาชาติ ถ้าหลังจากวันที่ 25 ตุลาคมนี้ ไม่สามารถจะจับกุมอะไรได้เลย และศาลไม่สามารถสืบพยานได้ อัยการไม่สามารถส่งฟ้องได้ เราเป็นห่วงสถานการณ์ในฐานะพรรคประชาชาติ

ขณะที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้ประสานงานให้มีการติดตามจับกุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แต่เป็นการทวงถามฝ่ายเดียว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแถลงข่าวถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รับทราบ

นายกมลศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี ลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย ไม่ขอก้าวก่าย แต่ระบุว่ามีประเด็นที่สังคมตั้งข้อสงสัย ซึ่งต้องมีการชี้แจงต่อสังคม ไม่เข้าใจว่าหนังสือลาออกส่งมาได้อย่างไร ส่วนตัวตอนที่อยู่สภาฯ ไม่ค่อยได้เจอ พล.อ.พิศาล เนื่องจากอยู่คนละกรรมาธิการ แต่อาจจะมีการเดินสวนทางกันในห้องประชุม แต่ไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว.-312-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ลุยสางปัญหาวงการสงฆ์

พุทธมณฑล 16 ก.ค.- “สุชาติ” มอบนโยบายสำนักพุทธฯ ผอ.พศจ.ทั่วประเทศตบเท้าเข้าฟัง หลังเกิดประเด็นฉาว “สีกากอล์ฟ” บอกขอฟังปัญหาก่อนเพื่อแก้ให้ตรงจุด ชี้ถูกสั่งให้มาสางปัญหาแต่ปัญหามีเยอะเหลือเกิน ยกรัฐธรรมนูญ มาตรา 67 แจง รัฐต้องช่วยแก้ปัญหา นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบนโยบายการดำเนินงานแก่ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โดยมีนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผู้อำนวยการ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงและผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาทั่วประเทศเข้ารับฟัง ณ อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ห้องประชุม มส.เดิม) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม หลังเกิดประเด็น สีกากอล์ฟ ที่มีพระชั้นผู้ใหญ่เข้าไปเกี่ยวข้องจนทำให้มีการลาสิกขาบทไปแล้วถึง 9 รูป โดยนายสุชาติ กล่าวว่า ตนมาวันนี้อยากขอฟังภารกิจของสำนักงานพระพุทธศาสนา ในสิ่งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เพราะตอนนี้ตนได้มารับงานดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งเป็นอย่างที่ตนได้เคยให้ข่าวไว้ว่ารับน้องใหม่แรงเหลือเกิน แต่ไม่เป็นไรยินดีที่จะเข้ามาสางปัญหา เพราะถูกส่งให้เข้ามาสางปัญหาโดยเฉพาะ แต่ก็มีปัญหาให้สางเยอะไปหน่อย แล้วตนอยากฟังว่าการดำเนินงานที่ผ่านมามีปัญหาหรือติดขัดอะไรบ้าง มีอะไรให้รัฐบาลช่วยเหลือแก้ไขให้ถูกจุด เพราะว่าตามรัฐธรรมนูญมาตรา 67 วรรค 5 […]

“สีกากอล์ฟ” อิดโรย-ยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนเข้าห้องขังกองปราบฯ

16 ก.ค. – “สีกากอล์ฟ” ปิดปากเงียบตอบคำถามสำนึกผิดหรืออยากขอโทษในสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษ ก่อนถูกคุมตัวเข้าห้องขังกองปราบฯ ตำรวจกองกำกับการ 2 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ควบคุมตัว น.ส.วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ เข้ามาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่าสำนึกผิดหรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟไม่ตอบคำถามใดๆ เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้นจากการสังเกตพบว่าสีกากอล์ฟมีท่าทีอิดโรยและเครียดมาก ขณะที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. แจ้งข้อหาสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี ใน 3 ข้อหา คือ ม.147 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ, รับของโจร, สมคบกันฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน ก่อนแถลงจับกุมว่ พบลักษณะของการกรรโชกทรัพย์อดีตท่านเจ้าคุณอาชว์ จึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการสืบสวน แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเราต้องทำก่อนคือการจัดการปัญหาเรื่องวินัยสงฆ์ เพราะถ้ารูปต่างๆ หลุดออกไป อาจทำให้เกิดความเสื่อมเสียไปเป็นอย่างมาก จากการตรวจสอบพบว่าสีกากอล์ฟมีความสัมพันธ์กับอดีตเจ้าคุณอาชว์ ช่วงเดือน พ.ค. 2567 ก่อนที่จะห่างกันไป แต่กลับมาอ้างว่ามีลูกที่เจ้าคุณอาชว์ พร้อมขอค่าเลี้ยงดูเลี้ยง 7.2 ล้านบาท ตกเดือนละ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณ จ.เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ เลย หนองคาย จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวและเวียดนามตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลงเป็นกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร […]

วธ. ยันกัมพูชาไม่ได้สอดไส้วรรณกรรมไทย ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก

กทม. 15 ก.ค.-กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ยืนยันกัมพูชาไม่ได้นำวรรณกรรมไทย 22 รายการ สอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ออกหนังสือชี้แจง ตามที่มีการกล่าวอ้างในเพจดังกล่าวว่า “นี่คือวรรณกรรมไทย ที่กัมพูชานำไปสอดไส้ขึ้นทะเบียนต่อ Unesco และได้รับการขึ้นทะเบียนไปเรียบร้อย เพราะรัฐบาลไทยปล่อยปละละเลยและไม่คัดค้านเลยแม้แต่นิดเดียว…” กระทรวงวัฒนธรรม ขอขอบคุณท่านที่ห่วงใยต่อกรณีประเทศกัมพูชานำวรรณกรรมไทย จำนวน 22 รายการ นำไปขึ้นทะเบียนต่อยูเนสโก ในหัวข้อ มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของกัมพูชา เพื่อใช้ในการแสดง Royal Ballet of Cambodia เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้กับยูเนสโก ทั้งนี้ กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว และขอชี้แจง ดังนี้ 1.ข้อมูลที่อ้างว่ามีการขึ้นทะเบียน “วรรณกรรมไทย 22 รายการ” โดยกัมพูชา ไม่เป็นความจริง เนื่องจากกัมพูชาไม่ได้เสนอขอขึ้นทะเบียนวรรณกรรม จำนวน 22 เรื่อง ต่อองค์การยูเนสโก แต่กัมพูชาได้เสนอขึ้นทะเบียน The Royal Ballet of Cambodia ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงโบราณของกัมพูชา และยูเนสโกได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นรายการตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2546 […]