25 ธ.ค.- ตำรวจ-กรมอุทยานฯ เร่งขยายผล “ลูกกอริลลา” ลุยตรวจค้นฟาร์มนำเข้า ยังไม่พบการกระทำผิดกฎหมาย
ภายหลังทางเจ้าหน้าที่สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี ตรวจยึดลูกกอริลลา สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ ถูกขังในลังไม้ที่ผู้โดยสารลักลอบนำเข้าเที่ยวบินมาจากประเทศไนจีเรีย โดยมีปลายทางไปยังกรุงเทพฯ ประเทศไทย ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ ตำรวจ ปทส. และเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ เข้าตรวจค้นฟาร์มเพาะเลี้ยงสัตว์ต่างประเทศแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม เบื้องต้นยังไม่พบการกระทำความผิดใดๆ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เบื้องต้น จากการเข้าตรวจค้นได้สอบถามจากผู้ประกอบการฟาร์มแล้ว ทั้งนี้ยังพบพิรุธในบางเรื่องจึงต้องตรวจสอบต่อไป รวมถึงเรื่องที่อ้างว่ามีชายชาวต่างชาติว่าจ้างให้นำเข้ากระต่าย 50 ตัว แต่ไม่มีข้อมูลให้ตรวจสอบ
สิ่งที่สำคัญที่สุดเจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนไปถึงเป้าหมายที่อยู่เบื้องหลังในกระบวนการครั้งนี้ให้ได้ เนื่องจากลูกกอริลลา อยู่ในบัญชีสัตว์ไซเตสประเภท 1 ตรวจประเทศไทยเป็นหนึ่งในภาคีตามอนุสัญญาไซเตสระหว่างประเทศ จึงจำเป็นต้องหยุดยั้งขบวนการนำเข้าสัตว์ผิดกฎหมายประเภทนี้ให้ได้
ด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) เปิดเผยว่า หลักฐานที่เชื่อมโยงพบว่าเลขใบอนุญาตการนำเข้าส่งออก สำแดงเป็นกระต่ายจำนวน 50 ตัว โดยมีปลายทางของความดังกล่าวในพื้นที่จังหวัดนครปฐม จึงเป็นเหตุผลในการเข้าตรวจค้น แต่จากการตรวจค้นพบว่าสินค้าที่สำแดงในใบอนุญาตนำเข้าส่งออกนั้น ได้ถูกส่งมายังเจ้าของฟาร์มแล้ว เป็นกระต่ายทั้งหมดจำนวน 50 ตัว โดยได้รับเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมที่ผ่านมา
เบื้องต้นจากการสอบถามเจ้าของฟาร์มปฏิเสธ ไม่รู้เห็นเรื่องนำเข้าลูกกอริลลา มีแต่การนำเข้ากระต่าย 50 ตัว ตามที่มีชาวต่างชาติว่าจ้าง และจากการตรวจค้นก็ไม่พบหลักฐานที่สามารถเอาผิดเจ้าของฟาร์มได้ และฟาร์มดังกล่าวมีการขอใบอนุญาตจากกรมอุทยานฯ ในการนำเข้าสัตว์จากต่างประเทศอย่างถูกต้อง อีกทั้งลูกกอริลลาที่เจออยู่นอกราชอาณาจักร
แต่ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายเรื่อง อาทิ เลขเอกสารนำเข้า (อินวอย) เป็นเลขลอตเดียวกับที่สำแดงไว้ว่านำเข้ากระต่ายยักษ์ 50 ตัว ซึ่งส่งมาถึงไทยแล้ว โดยอ้างว่ามีชาวต่างประเทศว่าจ้างให้นำเข้า ตัวละ 3 พันบาท รวม 150,000 บาท รวมถึงเมื่อไปตรวจค้นพบว่ามีการเผาทำลายลังใส่สัตว์ที่นำเข้ามา ซึ่งหลังจากนี้ยังต้องประสานไปยังประเทศต้นทาง คือประเทศไนจีเรีย และเจ้าหน้าที่ศุลกากรของสนามบินอิสตันบูล เพื่อขอเอกสารและข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รวมถึงจะขยายผลในเรื่องของผู้นำเข้าลูกกอริลลาใครอยู่เบื้องหลัง
ส่วนการตรวจสอบบริษัท พบว่า เป็นบริษัทฟาร์มเอกชนแห่งหนึ่งเพาะเลี้ยงสัตว์ต่างประเทศอยู่ใน จ.นครปฐม และมีร้านขายจำหน่ายที่ (จตุจักร) กรุงเทพ และทางออนไลน์ มีกลุ่มลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ ทำธุรกิจนี้มานานหลายปี .416.-สำนักข่าวไทย