วปอ. 22ก.ย.- “พล.อ.ประวิตร” เสียใจทหารพรานโดนวางระเบิดเสียชีวิตหลายนาย สั่งเพิ่มความระมัดระวังในการลาดตระเวน ยืนยัน เดินหน้าพูดคุยสันติสุข ด้าน “พล.อ.เฉลิมชัย” ชี้คนร้ายอาศัยช่วงสับเปลี่ยนกำลังก่อเหตถป่วนใต้ ยันทหารพรานไม่ได้ประมาท
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเเละรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีเกิดเหตุลอบวางระเบิดชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4412 หน่วยเฉพาะกิจทหารพราน ขณะลาดตระเวนอยู่บนถนนสาย 41 (สายเก่า) ต.ตะปิ้ง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิตหลายนาย ว่า ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียชีวิตและครอบครัว และขอให้กำลังใจกับผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งต้องทำให้ดีต่อไป
“จุดเกิดเหตุเป็นเส้นทางเดิม ที่เจ้าหน้าที่ต้องลาดตระเวนเป็นประจำ ได้สั่งการให้เพิ่มความระมัดระวังการลาดตระเวนเส้นทาง และการเดินทางของเจ้าหน้าที่ แต่ยอมรับว่าในพื้นที่มีถนนจำนวนมาก ดังนั้น ต้องเพิ่มความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น” พล.อ.ประวิตร กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ไม่ยุติการพูดคุยสันติสุขกับกลุ่มผู้เห็นต่าง ยังต้องเดินหน้าต่อไป ส่วนการพูดคุย 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เป็นเพราะกลุ่มผู้เห็นต่าง ที่มาเลเซียในฐานะผู้อำนวยความสะดวก ติดต่อมา อาจจะยังไม่ต้องการเข้าสู่กระบวนการพูดคุยอย่างจริงจัง ซึ่งมีหลายกลุ่ม
พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า เหตุลอบวางระเบิดดังกล่าว เป็นเรื่องที่น่าเสียใจ ช่วงนี้เกิดเหตุรุนแรงขึ้นหลายครั้ง ซึ่งอยู่กับโอกาสและจังหวะ หากมีช่องว่างก็ทำให้เกิดเหตุได้ โดยได้ย้ำให้กำลังพลเพิ่มความระมัดระวัง
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวด้วยว่า ส่วนการพูดคุยสันติสุข ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยเฉพาะการกำหนดพื้นที่ปลอดภัย แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยและเงื่อนไขในพื้นที่ที่มีความละเอียดอ่อน จึงต้องใช้เวลา บางประเทศต้องใช้เวลาถึง 10 ปีถึงจะสงบ ดังนั้นของไทยจึงถือว่ามีความคืบหน้าพอสมควร นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขในประเด็นความเป็นเอกภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ทำให้ส่งผลต่อการพูดคุยด้วย
พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวอีกว่า ช่วงนี้มีการเคลื่อนย้าย สับเปลี่ยนกำลังบ่อยครั้ง ทำให้คนร้ายอาศัยช่องว่างก่อเหตุรุนแรง แต่ยืนยันว่าเหตุระเบิดเช้านี้ ไม่ใช่ความประมาทของทหารพราน เพราะจากการติดตามการทำงาน ถือว่ามีความรอบคอบ แต่การเผชิญหน้าอาจมีโอกาสพลาดได้
ส่วนกรณีทหารและตำรวจบังคับพระมหาอภิชาติ ลาสิกขา เนื่องจากได้แสดงความคิดเห็นที่เป็นภัยต่อความมั่นคงนั้น พล.อ.เฉลิมชัย กล่าวว่า การแสดงความคิดเห็นของพระดังกล่าว กระทบต่อความรู้สึก และส่งผลให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกภายในพื้นที่ โดยการใช้สื่อโซเชียลในการแสดงความคิดเห็น ยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนใต้ยากขึ้น จึงขอความร่วมมือให้พระดังกล่าวลาสิกขา.- สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม