“สนธิรัตน์” ลงพื้นที่ จ.ตราด รับเรื่องร้องเรียนขอรัฐหยุด MOU 44

22 ธ.ค. – “พล.อ.ประวิตร“ ห่วงกลุ่มประมง ส่ง “สนธิรัตน์-ม.ล.กรกสิวัฒน์” ลงพื้นที่ จ.ตราด รับเรื่องร้องเรียน ขอรัฐหยุด MOU 44 เสี่ยงเสียเขตแดนทางทะเล หวั่นกระทบอาชีพ-รายได้ประชาชน


นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ และ ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี กรรมการบริหาร พรรคพลังประชารัฐ เดินทางมาเยี่ยมพี่น้องประชาชนใน จ.ตราด โดยได้รับการประสานงานจากประชาชนในพื้นที่ว่า ได้ติดตามเรื่อง MOU 2544 มีความห่วงใยเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐ จึงขอยื่นหนังสือด่วนต่อนายสนธิรัตน์ ณ ศาลาท่าหลวง ท่าเสด็จ รัชกาลที่ 5

ประธานกลุ่มประมงชุมชนชายฝั่งอาสาสมัครพิทักษ์ทะเลตำบลหาดเล็ก ได้แสดงความห่วงใยว่า MOU 2544 ปรากฏเส้นเขตแดนทางทะเลกัมพูชา ลุกล้ำทะเล จ.ตราด เป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ย่อมส่งผลกระทบต่ออาชีพการประมง กระทบต่อรายได้ความเป็นอยู่ของประชาชนตามชายฝั่งทะเลตราดในอนาคต และที่สำคัญคืออาจเสียเขตแดนทางทะเลที่เป็นของคนไทยให้แก่ประเทศกัมพูชา ต่อมาประธานกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อมตำบลท่าพริก ได้กล่าวว่า ที่กลุ่มของตนเดินทางมาในครั้งนี้เนื่องจากกังวลใจต่อสถานการณ์ที่รัฐบาลพยายามเดินหน้า MOU 2544 ที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของของคนตราด และสอบถามเรื่องที่รัฐบาลต้องการแบ่งผลประโยชน์ก๊าซและน้ำมันในทะเลตราดให้แก่กัมพูชา ทั้งที่เป็นของประเทศไทย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลที่จะต้องเกิดขึ้น


นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. มีความห่วงใย และให้มารับฟังปัญหาทุกด้านจากพี่น้องประชาชน จ.ตราด ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการทำประมง การทำการเกษตร และตนในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ยินดีรับฟัง และจะหาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอขอบคุณที่ติดตามปัญหาเรื่อง MOU 2544 และได้เดินทางมายื่นหนังสือในวันนี้ ตนขอยืนยันว่าจะคัดค้านการกระทำใดๆ ที่จะทำให้ประเทศและประชาชนไทยเสียประโยชน์

ม.ล.กรกสิวัฒน์ กล่าวต่อว่า ในพระราชวงศ์จักรีมีพระเจ้าน้องยาเธอในรัชกาลที่ 5 ที่มีเชื้อสายตราดสองพระองค์ คือ กรมหลวงอดิศรอุดมเดช และกรมหมื่นทิวากรวงศ์ประวัติ ต้นราชสกุลเกษมศรี เพราะมีพระมารดา คือ เจ้าจอมมารดาจันทร์ ธิดาเจ้าเมืองตราด มีบ้านเกิดอยู่ที่หนองคันทรง ใน อ.เมืองตราด ตนจึงมีความผูกพันกับตราดโดยสายเลือด

ทั้งนี้ เห็นว่าการดำเนินการตาม MOU 2544 สุ่มเสียงต่อการเสียอาณาเขตทางทะเลของไทยที่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ทรงรักและหวงแหนเป็นที่สุด ยอมแลกพื้นที่กัมพูชาครึ่งประเทศเพื่อได้ จ.ตราด กลับคืนมาจากฝรั่งเศส MOU 2544 เป็นเอกสารราชการไทยฉบับแรกที่รับรู้การลากเส้นเขตแดนทางทะเลตามอำเภอใจของกัมพูชา ทับน่านน้ำภายในของ จ.ตราด ทับทะเลอาณาเขตของเกาะกูด และทับเขตเศรษฐกิจจำเพาะทิศตะวันตกของเกาะกูด ชาวตราดย่อมได้รับผลกระทบ ทั้งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงปฏิเสธเส้นที่กัมพูชาขีด ด้วยการประกาศพระบรมราชโองการเส้นไหล่ทวีปของไทยไว้เมื่อปี 2516 ตนจึงขอยืนยันว่าตนยืนเคียงข้างพี่น้องชาวตราดยึดมั่นในพระราชปณิธานปกป้องทะเลตราดเพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลานไทยสืบไป และขอขอบคุณพี่น้องชาวตราดที่มายื่นหนังสือในวันนี้.-319-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]