“แม่น้องผิง” ติดใจการตายของลูกสาว วอนร้านนวดรับผิดชอบ

8 ธ.ค. – แม่นักร้องสาว “ผิง ชญาดา” ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว อยากให้เจ้าของร้านนวดแสดงความรับผิดชอบ เผยมีลูกสาวคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้านเพจ “หมอไทยสตอรี่” เตือนนวดบริเวณคอผิดวิธี เสี่ยงเส้นเลือดเสียหาย-กระดูกสันหลังเคลื่อน-เส้นประสาทถูกทำลาย แนะหากมี 4 อาการหลังนวด ควรพบแพทย์ด่วน

กรณี “ผิง ชญาดา” นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาว ไปนวดคอ บ่า ไหล่ ที่ร้านนวดแผนโบราณ ริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี 3 ครั้ง มีการหักคอ 2 ครั้ง ทำให้แขนและขาชา ป่วยเป็นอัมพาต นอนติดเตียงเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนเสียชีวิตเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) แม่น้องผิง บอกว่าติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว เพราะตนเองก็เป็นหมอนวด จุดไหนอันตราย ไม่อันตราย เรารู้ หากนวดแล้วกระดูกคอเคลื่อนจะเป็นอันตรายถึงชีวิตแน่นอน เหตุการณ์นี้ตนอยากให้เจ้าของร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบ ออกมาชี้แจงให้กระจ่าง โดยเฉพาะหมอนวด เพราะลูกเราร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว อยากฝากหมอนวด หากไม่มีความรู้เรื่องจัดกระดูกคออย่าไปทำแบบนี้ และก่อนที่น้องจะเสียชีวิต ช่วงน้องนอนรักษาที่บ้าน มีหมาหอนตลอด ไม่คิดว่าจะเป็นลางสังหรณ์ ตนเองมีลูกสาวคนเดียว และเป็นเสาหลักหาเงินช่วยแม่ เขาบอกว่าหนูจะหาเงินช่วยแม่เอง ไม่อยากให้แม่ลำบาก สุดท้ายลูกสาวต้องมาเสียชีวิตในวัยเพียง 20 ปี

ด้านนายภูมิณรงค์ หรือ อาร์ม อายุ 22 ปี แฟนหนุ่มของน้องผิง เดินทางมาจุดธูปหน้าโลงศพแฟนสาว โดยเจ้าตัวถึงกับน้ำตาคลอเสียงสั่น บอกสาวคนรักว่า เธอไปดีเด้อ ไม่ต้องห่วงเขา เขาจะสู้เพื่อเธอ โดยแฟนหนุ่มน้ำตาคลอตลอดเวลา บอกว่าวางแผนเป็นครอบครัวที่ดีและมีแผนจะแต่งงานกัน หากย้อนเวลาได้ หากพาผิงไปนวดแล้วตายจะไม่พาไปเด็ดขาด

ส่วนเพจ “หมอไทยสตอรี่” เตือน! นวดบริเวณคอผิดวิธีเสี่ยงเส้นเลือดเสียหาย-กระดูกสันเคลื่อน-เส้นประสาทถูกทำลาย แนะหากมี 4 อาการนี้ หลังนวดควรพบแพทย์ด่วน “ปวดหัวรุนแรงแบบฉับพลัน, คลื่นไส้ อาเจียน หรือเวียนศีรษะ, แขนหรือขาอ่อนแรง ชาหรือสูญเสียความรู้สึก, รู้สึกว่ามีอาการ “ไฟช็อต” ไปตามแขนหรือปลายนิ้ว”

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยในการนวด หลีกเลี่ยงการนวดบริเวณคอหรือการดัดคอ โดยผู้ที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ เลือกนวดในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน และดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาต หากมีอาการปวดหรือผิดปกติ ควรหยุดนวดและปรึกษาแพทย์ทันที

เช่นเดียวกับ นพ.สุนทร ศรีสุวรรณ์ อาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลศูนย์หาดใหญ่ กล่าวว่า จากกรณีนี้แม้ว่าสาเหตุการเสียชีวิตยังไม่ทราบ เท่าที่มีข่าวเชื่อว่าการไปนวดบิดคอแรงๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้อ่อนแรงและต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง การบิดคอ จัดกระดูกที่รุนแรง มันอันตรายมากอยู่แล้ว หมอเคยเจอมากับตัวเอง หลายเคสแล้วเช่นกัน เช่นเคสผู้หญิงอายุ 38ปี เดินไปนวด แต่กลับบ้านเองไม่ได้ ต้องให้รถพยาบาลมารับ และนำส่งโรงพยาบาลด่วน สรุป MRI มีหมอนรองกระดูกแตกอย่างรุนแรงทับเส้นประสาทไขสันหลังแบบเฉียบพลัน หมอทำการผ่าตัดด่วน นำหมอนรองกระดูกที่ทับเส้นประสาทออก แล้วทำการเชื่อมข้อ คนไข้โชคดีมากที่ฟื้นตัวได้เร็ว จึงอยากฝากไว้เป็นอุทาหรณ์ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุยิ่งต้องระวังการนวดบิดคอ นวดจัดกระดูก เพราะกระดูกบาง เสี่ยงถึงขั้นมีกระดูกหักแตกร้าวได้.-สำนักข่าวไทย