สำนักจุฬาราชมนตรี 7 พ.ค.- “ภูมิธรรม” พบจุฬาราชมนตรี เห็นพ้องแนวทางแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ชี้การฆ่าไม่ใช่หลักศาสนาที่ถูกต้อง ในการเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์ แนะหาทางออกร่วมกัน ยุติความรุนแรงในพื้นที่ พร้อมพูดคุยกับคนที่แก้ไขปัญหาได้
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม (รมว.กห.) เผยกับสื่อมวลชนหลังเข้าพบ นายอรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ที่สำนักจุฬาราชมนตรี โดยใช้เวลาหารือ ประมาณ 1 ชั่วโมงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทางสำนักจุฬาราชมนตรีมีความห่วงใย และท่านได้ประสานติดต่อมา แต่ส่วนตัวก็ตั้งใจมากราบเรียนและขอเข้าพบท่านอยู่แล้ว ส่วนที่ตนมานั้นคือต้องการมาถามถึงมุมมองของจุฬาราชมนตรี ที่เจอสภาพเช่นนี้ และเข้าใจในคนมุสลิมมากกว่าคนไทยพุทธ
โดยหลังการพูดคุย มีความชัดเจนว่า ไม่มีใครอยากเห็นการเข่นฆ่า เนื่องจากไม่ตรงกับหลักศาสนา ดังนั้น สิ่งที่ตนอยากจะแก้ไข จึงต้องมีการพบกับทุกส่วน โดยไม่ต้องนั่งฟังในที่ประชุม เนื่องจากในที่ประชุมไม่สามารถพูดได้หมดทั้งหมด จึงนำส่วนเหล่านี้มาประกอบกันในการแก้ไขปัญหาและหาทางออก
ทั้งนี้ หลังจากที่ฟังจุฬาราชมนตรี และคณะ ได้มีการพูดถึงปัญหาหลายอย่าง และพูดถึงทางออกหลายส่วน จึงมีข้อเสนอให้ตนร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา ส่วนจะเป็นอะไรบ้างนั้นตนยังขอไม่ลงรายละเอียด โดยหลังคุยกันก็คิดว่าจะมีระบบที่พูดคุยกันได้มากขึ้น ย้ำว่า ตนก็ต้องพูดคุยกับทุกส่วนมากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ ตนคิดว่าทุกส่วนคิดตรงกัน และคิดว่าปัญหาน่าจะมีทางออก ซึ่งตนจะรับส่วนต่างๆไปคิดและรับไปดำเนินการ
เมื่อถามว่าได้มีการปรึกษาหรือได้รับคำแนะนำจากจุฬาราชมนตรีเกี่ยวกับหลักศาสนาอย่างไรหรือไม่ เนื่องจากผู้ก่อความไม่สงบมีการนำข้อมูลไปบิดเบือน นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลักศาสนาอิสลามที่ผ่านมาโดยตรง ไม่ได้มีการแนะนำให้เกิดการฆ่าใคร และการฆ่านั้นไม่ใช่หนทาง แต่เป็นบาป และหลักศาสนาก็ไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้อยู่แล้ว ฉะนั้น การอยู่ร่วมกันของชุมชนมุสลิมกับชุมชนไทยพุทธ ก็เป็นเรื่องที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อยู่แล้ว และสังคมพหุวัฒนธรรมไม่ใช่สังคมที่เลวร้ายมีแต่จะทำให้เกิดสันติสุขร่วมกันด้วย
ฉะนั้น จุดยืนของจุฬารัฐมนตรี คือ อยากเห็นสันติสุขเกิดขึ้นและอยากเห็นการร่วมมือกันเพื่อให้เกิดสันติสุข ดังนั้นจุฬารรัฐมนตรีจึงได้ประนามการกระทำโหดร้ายที่กระทำต่อมนุษย์ร่วมกัน ย้ำว่า มันผิดหลักศาสนา นอกจากนี้ตนเชื่อว่าทุกหลักศาสนาไม่นิยมหรือผลักดันใครให้ไปฆ่ากัน แต่เรื่องดังกล่าวมีความชัดเจนที่ทุกคนอยากหาสันติสุขและความสงบ และทุกคนอยากเห็นการเคารพนับถือซึ่งกันและกัน
ดังนั้น ต้องหาจุดที่เป็นเหตุเพื่อหาทางแก้ไข และตนก็พร้อมที่จะคุยและเจรจา ย้ำว่ายังต้องมีอีกหลายส่วน โดยเฉพาะตนเองที่จะต้องเดินทางไปประเทศมาเลเซียด้วย
เมื่อถามว่า โดยปกติแล้วเดือนรอมฎอนไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรง แต่ภายหลังเริ่มมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้น เรื่องนี้ได้มีการพูดคุยกับจุฬาราชมนตรีหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เหตุการณ์มันเคยเกิด โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ของเดือนรอมฎอนก็จะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น แต่เราได้ตกลงกันว่าขออย่าให้เกิด หากสามารถจบ และพูดคุยได้ตนก็ตกลง หากมันยังไม่เกิดมันก็ไม่รู้ว่าจะต้องไปพูดคุยกับใคร ซึ่งตนอยากคุยกับคนที่แก้ปัญหาได้.-313.-สำนักข่าวไทย