กองทัพเรือ 20 พ.ย.-ผบ.ทร. พร้องส่ง ‘จนท.อุทกศาสตร์-พระธรรมนูญ’ ร่วมวง JTC เจรจา ‘กัมพูชา’ พื้นที่อ้างสิทธิทางทะเล ชี้ต้องอาศัย ‘นักเทคนิค’ ควบคู่ ‘นักกฎหมาย’ เตรียมเปิดวงเสวนาชี้แจงสังคม 3 ธ.ค.นี้ ไม่หวั่นกระแส ‘คนนอก’ ครอบงำ JTC ย้ำยึดกฎหมาย-อนุสัญญาระหว่างประเทศ
พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวภายหลังทำพิธีวันสถาปนากองทัพเรือ ครบรอบ 118 ปี เมื่อถามว่า อดีต ผบ.ทร. ได้ฝากถึงกรณี MOU 44 กับกระแสสังคมอย่างไรบ้าง ว่า ตนเคารพความคิดของทุกท่าน เพราะทุกคนล้วนมีความเป็นห่วงกองทัพเรือ ไม่ว่าจะเกษียณฯ ไปนานเท่าไหร่แล้วก็ตาม เพราะอดีตผู้บังคับบัญชาของกองทัพเรือก็อยากให้กองทัพเรือเดินหน้าไปได้ และมีความต่อเนื่องในการพัฒนาในทุกด้าน
พร้อมย้ำว่ากองทัพเรือมีหน้าที่ดูแลพื้นที่และปัจจุบันก็ดูแลเส้นเขตแดนทางทะเลที่ประเทศไทยประกาศ ซึ่งเราดูแลได้อย่างเรียบร้อยและไม่มีความขัดแย้งเส้นเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพราะเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย
“แต่เมื่อมีกระแสสังคมถึง MOU 44 กองทัพเรือในฐานะหน่วยงานทางเทคนิคที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเขตแดนทางทะเล คือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ เตรียมจัดงานเสวนาในเรื่องนี้ ในเรื่องเส้นเขตแดนในทะเลและข้อตกลง-ข้อขัดแย้งต่างๆ วันที่ 3 ธ.ค.นี้ ที่เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปเข้ารับฟังได้ อีกทั้งแบ่งวงเสวนาให้ความรู้เรื่องการเจรจาข้อตกลงต่างๆอีกด้วย เพื่อสื่อสารให้สังคมเข้าใจ ว่าการเจรจาตกลงมีรูปแบบใดบ้าง รวมถึงกระบวนการเข้าสู่ศาลโลกที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทางทะเล เพื่อให้สังคมได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่หลากหลายรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงระหว่างประเทศ” ผบ.ทร. กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการตั้งคณะกรรมการร่วมทางเทคนิค (JTC) ที่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.กลาโหม ได้ระบุว่าจะต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องครอบคลุม ที่มีกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ ร่วมด้วยนั้น ผบ.ทร. กล่าวย้ำว่า ถ้า นายภูมิธรรม ร้องขอมาก็ยินดีสนับสนุน เพราะเรื่องเขตแดนทางทะเล กองทัพเรือก็ต้องศึกษาให้ถ่องแท้เช่นเดียว ตามที่จะมีการจัดเสวนาดังกล่าวขึ้นมา ซึ่งเจ้าหน้าที่กรมอุทกศาสตร์ จะมีความรู้ในเรื่องทางเทคนิค แต่ถ้าเป็นเรื่องกฎหมายก็จะเป็นสำนักพระธรรมนูญ กองทัพเรือ อยู่ที่จะมีการเลือกเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคแบบใด เข้าไปร่วมเจทีซี
เมื่อถามว่ามีความเป็นห่วงเรื่องความเป็นอิสระของคณะกรรมการเจทีซี ที่จะไม่ถูกครอบงำจากบุคคลใดหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า อยู่ที่การอธิบาย หรือความต้องการในกระบวนการทำงาน ในเรื่องทางกฎหมายและเทคนิค เพราะในบางส่วนอาจไม่เชี่ยวชาญเรื่องทางกฎหมาย ซึ่งกฎหมายก็จะมีช่องให้เดิน ขึ้นอยู่กับว่าจะหยิบมาตราใดมาใช้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคก็จะเข้ามาช่วยในเรื่องเหล่านี้ได้ กรณีที่มีการเจรจาเกิดขึ้นจะต้องใช้กฎข้อใดหรือต้องอ้างอนุสัญญาใด.-313.-สำนักข่าวไทย