รัฐสภา 29 ต.ค.-“รอมฎอน” ชี้ปลัดอำเภอท่าอุเทน หนีคดีตากใบ กลับมาทำงานได้ปกติ ตอกย้ำวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล-ตบหน้ากระบวนการยุติธรรมไทยทั้งระบบ เรียกร้อง รมว.มหาดไทย-กลาโหม ตรวจสอบคลายข้อข้องใจประชาชน ย้ำจำเป็นเร่งแก้กฎหมายว่าด้วยอายุความ
นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน แสดงความเห็นต่อกรณีปลัดอำเภอท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาคดีตากใบที่หลบหนีคดีจนคดีขาดอายุความไปเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 กลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ตามปกติแล้ว ว่ากรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลเป็นสิ่งที่ฝังรากลึกมาก ชนิดที่ว่าการหนีหมายจับคดีร้ายแรงของข้าราชการกลายเป็นเรื่องปกติ โดยไม่มีการต้องแสดงความรับผิดชอบใดๆ ในอีกทางหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่าการกลับมาทำงานของข้าราชการรายนี้เป็นการตบหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจและกระบวนการยุติธรรมของไทยเอง เพราะที่ผ่านมาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่การติดตามตัวตามหมายจับจะไม่สามารถทำงานได้อย่างที่ควรจะเป็น การกลับมาเช่นนี้เป็นการยืนยันในข้อสงสัยว่าการหนีคดีเหล่านั้นจะมีการรู้เห็นเป็นใจของข้าราชการหรือไม่
นายรอมฎอน ยังเรียกร้องให้หน่วยงานต้นสังกัดของข้าราชการที่หลบหนีคดีไป ทั้งกระทรวงมหาดไทยและกระทรวงกลาโหม ตรวจสอบทางวินัยเพื่อพิจารณาว่ามีเจ้าหน้าที่คนใดรู้เห็นเป็นใจในการช่วยหนีคดีหรือไม่ และขอให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งตรวจสอบเพื่อคลายข้อข้องใจของประชาชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้และญาติของผู้ที่สูญเสียในเหตุการณ์ตากใบ ว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้มีการละเลยเพิกเฉยละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
นายรอมฎอนกล่าวต่อว่ากรณีนี้ยังทำให้เห็นปัญหาของระบบยุติธรรมของไทยเรื่องอายุความในคดีอาญาที่เอื้อให้กับการลอยนวลพ้นผิด เป็นข้อบ่งชี้ว่ามีความจำเป็นที่จะต้องแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยเรื่องอายุความในมาตรา 95 ซึ่งตนในฐานะ สส. ด้านหนึ่งจะเร่งนำไปหารือในอนุกรรมาธิการยุติธรรมตากใบ ที่เป็นผลจากมติสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567 ที่มอบหมายให้กรรมาธิการการกฎหมายฯ จัดตั้งขึ้นมา และในอีกด้านหนึ่ง เตรียมจัดทำร่างแก้ไขกฎหมายว่าด้วยอายุความ ซึ่งปัจจุบันมีข้อถกเถียงอยู่ว่าควรเป็นการแก้ไขเฉพาะกรณีอายุความที่เกี่ยวกับฐานความผิดร้ายแรงให้ไม่มีอายุความเลย หรือจะเป็นการแก้ไขการนับอายุความในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เช่น พนักงานสอบสวนสรุปสำนวนเสร็จแล้วส่งให้อัยการก็เริ่มนับใหม่ เมื่ออัยการทำสำนวนถึงศาลก็นับใหม่ คือเริ่มนับใหม่ทุกครั้งที่มีความคืบหน้าของคดี ซึ่งทั้งหมดนี้คงต้องมีการอภิปรายถกเถียงกันเพื่อทำข้อเสนอ กลั่นกรองกฎหมาย รับฟังความเห็น และพัฒนาร่างกฎหมายต่อไป
“ที่สำคัญที่สุด กรณีนี้ปลัดท่าอุเทน ยืนยันว่าจำเป็นแล้วที่เราต้องแก้กฎหมาย ปล่อยไปแบบนี้ไม่ได้ พอขาดอายุความแล้วกลับมาโดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแสดงว่าช่องโหว่ของกฎหมายเรา ทำให้ความรับผิดรับชอบของแม้กระทั่งข้าราชการไม่ต้องทำอะไรเลย ทำให้เรื่องที่ควรจะเป็นเรื่องผิดปกติเป็นเรื่องปกติแบบนี้ได้อย่างไร” นายรอมฎอนกล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย