DSI รับความผิดฐานฟอกเงิน “ดิไอคอน” เป็นคดีพิเศษ

กทม. 24 ต.ค.-DSI รับเฉพาะความผิดฐานฟอกเงิน “ดิไอคอน” เป็นคดีพิเศษ ส่วนความผิดอื่นให้ตำรวจจัดการ ส่วนปมนาฬิกาปลอม ยึดก่อนตามหน้าที่ พิสูจน์ภายหลัง

14.25 น. พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวถึง การรับคดีฟอกเงิน กรณีดิไอคอน กรุ๊ปเป็นคดีพิเศษ ระบุว่า จากการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตั้งคณะพนักงานสอบสวนเพื่อแสวงหาข้อเท็จจริง ในคดีดิไอคอนกรุ๊ป ว่าเข้าฐานกระทำความผิดที่จะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในการสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่าคดีดังกล่าวพบการกระทำความผิดมูลฐาน ฉ้อโกงประชาชนเกิดขึ้นซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายฟอกเงินในมาตรา 3 อนุ 3


อีกทั้งเจ้าหน้าที่พบทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีนี้มูลค่าเกินกว่า 300 ล้านบาทจึงเข้าตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจในการดำเนินการสอบสวนได้

ขณะนี้ ดีเอสไอรับผิดชอบเฉพาะความผิดอาญาฐานฟอกเงินเท่านั้นเพราะเข้าเกณฑ์อำนาจหน้าที่ ส่วนความผิดอื่นยังคงเป็นอำนาจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยความผิดฐานฟอกเงินนับเป็นคนละกรรมกับการกระทำความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ดีเอสไอมุ่งดำเนินคดีกับผู้ที่โอน รับโอน ผู้ที่ใช้ประโยชน์จากทรัพย์นั้น


โดยทรัพย์สินที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการยึดไว้จะส่งต่อให้ ปปง.ดำเนินการต่อไป เช่นเดียวกับที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการตรวจยึดไว้ก็จะต้องส่งต่อให้ ปปง. เช่นกัน

ซึ่งแม้ดีเอสไอจะเข้ามารับผิดชอบคดีฟอกเงินแต่จะไม่ใช่การทำงานซ้ำซ้อนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอให้มองว่าเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันเพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม ส่วนทรัพย์สินที่ตำรวจตรวจยึดไปก่อนหน้านี้ดีเอสไอ ต้องไปสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินนั้นกับทางตำรวจมาดำเนินคดีฟอกเงินได้ทันที

ส่วนประเด็นที่สังคมสงสัยว่านาฬิกาที่ตรวจยึดก่อนหน้านี้เป็นของปลอมหรือของแท้ พันตำรวจตรี ยุทธนา กล่าวว่า พนักงานเจ้าหน้าที่มีหน้าที่ตรวจสอบ ตรวจยึด เมื่อได้รับเบาะแส ฉะนั้นเราจึงต้องไปรวบรวมพยานหลักฐาน ที่เกี่ยวข้องกับคดีเพื่อนำมาแสวงหาข้อเท็จจริง


ไม่ว่าจะเป็นของจริงหรือปลอม ถ้าเป็นสิ่งของที่มีมูลค่าและเชื่อว่าเป็นทรัพย์ที่เกี่ยวกับคดีนี้เจ้าหน้าที่ต้องยึดมาตรวจสอบทั้งหมดและจะมีกระบวนการพิสูจน์ต่อไป โดยทางเจ้าของลิขสิทธิ์แบรนด์ต่างๆ กำลังอยู่ระหว่างตรวจดูว่าของกลางเป็นของแท้หรือไม่แท้

ทุกอย่างมีคุณค่าในการพิสูจน์ ถ้าเป็นของปลอมก็ทำให้ชวนคิดต่อไปว่าทำไมกลุ่มผู้กระทำความผิดพวกนี้ถึงมีของปลอม หรือ จะต้องการเอาไว้หลอกว่าธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ ทำแล้วประสบความสำเร็จแล้วก็ทำให้ประชาชนยิ่งหลงเชื่อเข้าไปใหญ่ ดีเอสไอต้องแจ้งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำการพิสูจน์ความผิดต่อไป ว่าผู้ต้องหาเหล่านี้มีของปลอมไว้เพื่อทำอะไร

ซึ่งทางดีเอสไอยังไม่ตัดประเด็นว่าทำของปลอมเพื่อต้องการยักย้ายถ่ายเทหรือไม่ เพียงแต่ตรวจยึดไปตามเบาะแสที่ได้รับจากประชาชน

ส่วนทรัพย์สินที่ดีเอสไอยึดมาก่อนหน้านี้แบ่งเป็นกลุ่มแรก ที่ดินที่อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เป็นของผู้บริหารบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กลุ่มที่ 2 คือที่ตั้งของบริษัทดิไอคอนรวมทั้งอาคารสิ่งปลูกสร้างจำนวนหลายแปลง กลุ่มที่ 3 คือทรัพย์สินที่ได้จากย่านรามอินทราเป็นพวกนาฬิกา กระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ ว่าทรัพย์นั้นเป็นของจริงหรือไม่ ตามข้อสังเกตของประชาชน

เมื่อถามว่าผู้ต้องหาในคดีการฟอกเงินคือผู้ต้องหากลุ่มเดียว กับที่ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชนและพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ก่อนหน้านี้หรือไม่ ขณะนี้เชื่อว่าใช่ เพราะทั้งหมดมีพฤติการณ์รับโอนทรัพย์สินดังกล่าว และจากนี้ยังต้องขยายต่อไปยังบัญชีแถว 2 และ 3 ซึ่งอาจเป็นกลุ่มแม่ข่าย

ด้านนายวิทยา นิติธรรม โฆษก ปปง. เปิดผยว่า สุดท้ายทรัพย์สินที่ตรวจยึดมาได้ไม่ว่าจะเป็นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือกรมสอบสวนคดีพิเศษจะมาอยู่ที่ ปปง.เพื่อให้ดำเนินการต่อไป

โดยจะเป็นการประมูลทรัพย์สินนำเงินส่งคืนให้ประชาชนที่เป็นผู้เสียหาย การที่หน่วยงานต่างๆออกมาร่วมมือกันถือว่าเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการรวบรวมทรัพย์สินจากการกระทำความผิดพื่อเยียวยาพี่น้องประชาชน.-414.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”