ตร.เร่งล่าแก๊งคนร้ายอุ้มรีดทรัพย์นักธุรกิจชาวจีน

สน.สุทธิสาร 21 ต.ค. – ผกก.สน.สุทธิสาร เร่งล่าแก๊งคนร้ายทำทีติดต่อขอแลกเงินดิจิตอลก่อนเข้าชิงเงิน 3 ล้านบาท พร้อมอุ้มนักธุรกิจชาวจีนไปรีดทรัพย์ ด้านฝ่ายผู้เสียหายให้เบาะแสว่า อดีตภรรยาอาจมีส่วนเกี่ยวข้อง


เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (21 ต.ค.) พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผกก.สน.สุทธิสาร เปิดเผยถึงการอุ้มนักธุรกิจชาวจีนไปรีดทรัพย์ว่า ผู้เสียหายทำธุรกิจเป็นนายหน้าจัดสรรหาที่พักให้แก่ชาวจีนที่มาเมืองไทย มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย โดยในวันเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ที่เคยติดต่อขอแลกเงินดิจิตอลกันมาก่อน ที่จะขอแลกเงินดิจิทัลคริปโตเคอเรนซี่ โดยให้เตรียมเงินสดไทยไว้จำนวน 3 ล้านบาท หลังจากนั้นไม่นานมีกลุ่มคนร้าย 5 คน เข้ามาภายในออฟฟิศ พร้อมอาวุธครบมือ ทำทีเป็นเข้ามาถามถึงคนชื่อ “ไมเคิล” ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปรื้อค้นเงินแล้วพากลุ่มผู้เสียหายรวม 2 คน ที่เป็นชาวจีนแต่พูดไทยได้ ไปยังจังหวัดนครนายกโดยการนำตัวไปมีการแยกผู้เสียหายออกขึ้นรถ 2 คัน พร้อมรีดเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐไปอีก 270,000 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นได้นำตัวผู้เสียหายทั้งสอง ขึ้นรถเพียงคันเดียวมาส่งที่บริเวณย่านบางเขน

ผกก.สน.สุทธิสาร กล่าวว่า โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สน.สุทธิสาร ร่วมกับ กก.สส.บก. 2 และ ตม.ได้ทำการตรวจสอบทะเบียนรถยนต์ของผู้ก่อเหตุพบว่าเป็นการใช้ทะเบียนปลอม และได้ทำการสอบสวนผู้เสียหายเสร็จสิ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันนี้ ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาวพม่าร่วมด้วยหรือไม่ เนื่องจากการสื่อสารพบว่าเป็นคนจีน ส่วนบุคคลที่ชื่อไมเคิลขณะนี้ได้ประสานกับ ตม.เพื่อตรวจสอบว่าบุคคลที่เข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ แต่ยืนยันว่ามีตัวตน


พ.ต.อ.พรเทพ กล่าวว่า โดยคนกลางที่ติดต่อมาขอแลกเงินกับผู้เสียหายมีตัวตน เช้าวันนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบกับทาง ตม.เพื่อไล่เรียงพฤติกรรมการก่อเหตุทั้งหมด ยืนยันว่าผู้เสียหายเข้าเมืองไทยมาโดยถูกต้องและทำธุรกิจถูกกฎหมาย โดยจากการสอบสวนเบื้องต้นผู้เสียหายสงสัยว่า น่าจะเชื่อมโยงกับตัวอดีตภรรยาที่ได้เลิกลากันไป โดยมีลูกด้วยกัน ขณะนี้ผู้ต้องสงสัยรายนี้ยังอยู่ในเมืองไทย แต่ในเบื้องต้นยังเป็นเพียงแค่ข้อสันนิษฐาน ส่วนการติดตามตัวคนร้ายขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ไล่ตรวจสอบเส้นทางการก่อเหตุ และเชื่อว่าขณะนี้ผู้ต้องหายังคงอยู่ในประเทศไทย แต่การติดตามมีความยากลำบากเพราะเนื่องจากผู้ต้องหาได้ทำการแยกย้ายรถออกไปคนละคันและหลบหนี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงให้การดูแลผู้เสียหายทั้งสองคน เนื่องจากทั้งคู่ยังอยู่ในความหวาดกลัวอันตราย. -412-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยึดรถบอสดิไคอน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน

ตำรวจยึดรถ “บอสพอล-บอสกันต์” เพิ่มเติมรวม 4 คัน ขณะที่พนักงานสอบสวนชุดเล็กประชุมสรุปรายงานผลการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เตรียมรายงานคณะทำงานชุดใหญ่พรุ่งนี้

ระเบิดสะพานโจร

“ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง

กสทช. จับมือตำรวจ สานต่อยุทธการ “ระเบิดสะพานโจร” ทำลายสายส่งเคเบิลขนาดใหญ่ ลักลอบพาดสายบนสะพานข้ามโขง อย่างอุกอาจ เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ว.วชิรเมธี

พระพยอมชี้ ท่าน ว.วชิรเมธี นั่งบนหิมะ ไม่ผิดวินัยสงฆ์

เพจดังลงภาพท่าน ว.วชิรเมธี นั่งสมาธิบนหิมะที่ญี่ปุ่น ด้านพระพยอมชี้ ไม่ผิดวินัยสงฆ์ คิดว่าท่าน ว.วชิรเมธี คงอยากทดสอบความอดทน

ข่าวแนะนำ

คลิปเสียงเทวดา

“บิ๊กเต่า” ยันไม่หนักใจปมคลิปเสียงดิไอคอน ลั่นจะจับเทวดา

“บิ๊กเต่า” ยันไม่หนักใจหากคลิปเสียงคดีดิไอคอนโยงไปถึงนักการเมืองจริง เตรียมประสานสอบเพิ่ม “บอสพอล” ยืนยันหากโยงไปถึงใครไม่มีละเว้น