กทม. 6 ต.ค.-ตำรวจเร่งล่า “สันติ” อดีตนักมวย หลังศาลออกหมายจับ 4 ข้อหาหนัก ในคดีใช้ปืนยิงเปิดทาง เข้าไปจับแพทย์ เป็นตัวประกันในบ้านย่านอินทามระ ก่อนหลบหนีไปได้ ขณะที่ภรรยานายสันติ ห่วงความปลอดภัยสามี วอนขอให้เข้ามอบตัว
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้เดินทางมาร่วมประชุมติดตามความ ทางคดีนายสันติ อายุ 39 ปี อดีตนักมวย ก่อเหตุจี้ตัวประกัน เป็นเป็นนายแพทย์ในบ้านพักย่านอินทามระ 29 แยก 1 เมื่อคืนวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ สน.บางซื่อ อีกครั้ง โดยใช้เวลาไม่นาน ก่อนรีบเดินทางออกจาก สน. ไป โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดกับสื่อ
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเที่ยง พล.ต.ต.อรรถพล ได้มีการประชุมชุดสืบสวน เพื่อเร่งติดตามตัวนายสันติ มาดำเนินคดี เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลอนุมัติหมายจับนายสันติ ในคดีดังกล่าวแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค. รวม 4 ข้อหาหนัก คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ซึ่งเดิมที่ นายสันติ มีหมายจับ คือ คดีลักทรัพย์ ใน ท้องที่ สน.เตาปูน มาก่อนหน้านี้ และ ผู้บังคับการตำรวจนคาบาล 2 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งตามจับกุมตัวนายสันติโดยเร็วที่สุด และต้องใช้ความระมัดระวังในการจับกุม เนื่องจากผู้ต้องหามีอาวุธปืนและเคยยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคาดจะได้ตัวเร็วๆ นี้
ส่วนการดำนินคดีกับนางพจนี ภรรยานายสันติ ที่ข่มขู่ตำรวจและใช้อาวุธปืนจี้คอตัวเองขึ้นรถเจ้าหน้าที่ ก่อนลงจากรถหลบหนี และถูกตามจับกุมตัวได้ที่ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ได้ควบคุมตัว นางพจนี ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาฯ ฝากขังผัดแรก เมื่อวานนี้ ในฐานความผิด 4 ข้อหา คือ พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่รับอนุญาต, ครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, มียาเสพติดในครอบครอง และกักขังหน่วงเหนี่ยวเจ้าพนักงาน โดยท้ายคำร้องขอคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะหลบหนี และคดีมีอัตราโทษสูง โดยนางพจนี มีสีหน้าเครียด สวมชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล จากการที่ถูกส่งตัวไปรักษาแผล ที่เท้าก่อนหน้านี้ และระหว่างที่ถูกควบคุมตัวขึ้นรถผู้ต้องขัง ได้กล่าวขอโทษเจ้าหน้าที่ที่ถูกตัวเองใช้ปืนข่มขู่ พร้อม ขอให้นายสันติ สามี เข้ามอบตัวกับตำรวจ เพื่อความปลอดภัย
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จากการสอบสวนนางพจนี ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนวันเกิดเหตุเสพยาเสพติดมาก่อน 1 วัน โดย เดินทางมาจากต่างจังหวัด เพื่อมาหานายสันติ แต่เมื่อทราบว่านายสันติถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์หนีหมายจับ ก็ได้พักตามห้องเช่าต่างๆ ในวันเกิดเหตุผู้ต้องหาได้มาหาสามี แต่มีตำรวจและนักข่าว อยู่บริเวณบ้าน สามีจำนวนมาก เกิดความเครียด จึงได้ตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นจึงได้สั่งการให้ชุดสืบนครบาล ชุดสืบสวนนครบาล 2 และชุดสืบสวน สน.บางซื่อ เร่งไล่ติดตามตัวนายสันติ เร่งด่วน คาดว่าต้องใช้เวลาสักระยะ
ทั้งนี้ มีรายงานจากชุดสืบสวน ในการติดตามตัวนายสันติ หลังจากหลบหนีฝ่าวงล้อมของตำรวจไปท่ามกลางข้อสงสัย ขณะนี้พบว่าหลังเกิดเหตุ ได้ออกจากพื้นที่แล้วไปหลบซ่อนอยู่ในพื้นที่เขตลาดพร้าว ซึ่งนายสันติ รู้จักคนเยอะ และเป็นจุดสุดท้าย ที่ตำรวจได้เบาะแส แต่อย่างไรก็ตาม ทางชุดสืบสวนได้มีการขยายวงกว้างการสืบสวนออกไปนอกเหนือพื้นที่กรุงเทพฯ เพราะนายสันติ นั้นก็มีคนรู้จักที่จังหวัดอื่นด้วย.-สำนักข่าวไทย
