ชัวร์ก่อนแชร์: เจ้าของ World Trade Center ทำประกันเพราะรู้ว่าตึกจะถล่ม จริงหรือ?

12 กันยายน 2567
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ

ข้อมูลที่ถูกแชร์ :

มีข้อมูลสร้างความเข้าใจผิดเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ เผยแพร่มาอย่างยาวนาน โดยอ้างว่า ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชาวอเมริกัน ผู้ได้รับสิทธิ์เช่าชื้อระยะยาว (Leasehold) ตึกแฝด World Trade Center ก่อนหน้าตึกถล่มเพียง 2 เดือน ได้เลือกทำประกันภัยตัวอาคารจากเหตุก่อการร้าย เนื่องจากรู้อยู่แล้วว่าจะมีการโจมตีตึกแฝดในเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ จนทำกำไรจากการเรียกค่าสินไหมทดแทนไปถึง 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

บทสรุป :

ก่อนยุค 9/11 ประกันภัยครอบคลุมเหตุก่อการร้ายโดยอัตโนมัติ จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ตึก World Trade Center จะได้รับการประกันภัยเหตุก่อการร้ายเช่นกัน

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :

World Trade Center เป็นอาคารของการท่าเรือแห่งนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์ (Port Authority of New York and New Jersey) ใช้ทุนสร้าง 900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดใช้งานเมื่อปี 1973

ต่อมาในทศวรรษที่ 1990s จึงมีแผนโอนกิจการของ World Trade Center เป็นของเอกชน โดยผู้ชนะประมูลได้แก่ ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน ที่ได้รับสิทธิ์เช่าชื้ออาคาร World Trade Center เป็นเวลา 99 ปีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2001

หลังจากตึก World Trade Center ถล่มจากการถูกโจมตีในอีก 2 เดือนต่อมา ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน ได้ฟ้องร้องเพิ่มค่าสินไหมทดแทนเป็น 2 เท่า โดยอ้างว่าความสูญเสียเกิดจากการก่อการร้าย 2 ครั้ง จนได้ค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยเพิ่มจาก 3.55 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็น 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท)

อย่างไรก็ดี ไม่หลักฐานว่า การที่ ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน ได้รับค่าสินไหมทดแทนจากการทำประกันภัยเหตุก่อนการร้ายเพียง 2 เดือน ก่อนตึก World Trade Center ถล่ม จะสามารถยืนยันได้ว่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ผู้นี้รู้ว่าจะมีการจู่โจมตึกแฝดล่วงหน้า

ก่อนยุค 9/11 ประกันภัยครอบคลุมเหตุก่อการร้ายโดยอัตโนมัติ

ก่อนเหตุวินาศกรรม 11 กันยาฯ บริษัทประกันภัยจะเสนอการครอบคลุมเหตุก่อการร้ายโดยอัตโนมัติ เนื่องจากในยุคนั้นมีความเชื่อว่าภัยจากการก่อการร้ายเกิดขึ้นได้ยาก

แต่หลังเหตุการณ์ 9/11 บริษัทประกันภัยในสหรัฐฯ ต้องสูญเงินจากการชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้กับผู้ทำประกันภัยด้วยมูลค่าที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมูลค่าเมื่อเทียบค่าเงินในปี 2024 เท่ากับ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2 ล้านล้านบาท)

ส่งผลให้บริษัทประกันภัยในสหรัฐฯ แยกการครอบคลุมเหตุก่อการร้ายออกจากการครอบคลุมประกันภัยทั่วไป เพื่อลดความเสี่ยงหากเกิดเหตุก่อการร้ายครั้งใหญ่ในอนาคต

โดยปี 2002 รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ผ่านกฎหมาย Terrorism Risk Insurance Act ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะช่วยเหลือค่าสินไหมทดแทน หากเกิดความเสียหายที่เชื่อว่าเกิดจากการก่อการร้าย

ดังนั้น การที่ ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน ทำประกันภัยเหตุก่อการร้ายตึก World Trade Center ในปี 2001 จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เนื่องจากประกันภัยในยุคนั้นครอบคลุมเหตุก่อการร้ายโดยอัตโนมัติ

โดยค่าสินไหมทดแทน 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของ ลาร์รี ซิลเวอร์สตีน ใช้เพื่อการจ่ายค่าเช่าให้กับการท่าเรือแห่งนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีย์เดือนละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และใช้ในโครงการก่อสร้าง New World Trade Center ขึ้นมาใหม่ ซึ่งมีงบประมาณกว่า 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.snopes.com/fact-check/wtc-terrorism-insurance/
https://www.iii.org/article/background-on-terrorism-risk-and-insurance
https://content.naic.org/cipr-topics/terrorism-risk-insurance-act-tria
https://en.wikipedia.org/wiki/Larry_Silverstein