กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-ชาวบ้านริมคลองบางบัว ผิดหวังหลังประธาน สหกรณ์เคหสถานชายคลองบางบัว เบี้ยวไม่เข้าชี้แจงรายละเอียดบัญชีเงินออมของชาวบ้านกว่า 7 ล้านบาท อ้างต้องหารือกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์ก่อน
ชาวบ้านชุมชนริมคลองบางบัวกว่า 10 คน เข้าหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่ สถาบันพัฒนาชุมชน (องค์การมหาชน) หรือพอช. ทหารและตำรวจ ที่ห้องประชุมชั้น 3 สำนักงานเขตหลักสี่ เพื่อไกล่เกลี่ยปัญหาการบริหาร เงินสหกรณ์เคหสถานชายคลองบางบัว จำกัด ซึ่งปัจจุบันมีนายมานพ จงเกษมธรรม เป็นประธานสหกรณ์ พร้อมชี้แจงรายละเอียดของเงินที่ชาวบ้านกว่า 390 ครัวเรือนนำไปฝากกับสหกรณ์ ประกอบด้วย เงินออมสมทบครอบครัวละ 19,000 บาทที่จ่ายเพื่อค้ำประกันเงินกู้บ้านประชารัฐ เงินประกันเช่าที่ดินครอบครัวละ 1,680 บาท ค่าเช่าที่ดินครอบครัวละ 70 บาทต่อเดือนและค่าหุ้นครอบครัวละ 100 บาทต่อเดือน รวมกว่า 7.9 ล้านบาท ว่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง และเงินจำนวนนี้ไปอยู่ที่ไหน แต่เนื่องจากนายมานพ จงเกษมธรรม ประธานสหกรณ์ฯ ไม่มาตามนัดโดยให้เหตุผลว่า ขอหารือร่วมกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์เป็นการภายในก่อน จึงทำให้การหารือเจรจาครั้งนี้ต้องยุติลง
นางคมขำ เรือนราน ชาวบ้านชุมชนริมคลองบางบัว เปิดเผยว่า ชาวบ้านเริ่มเรียกร้องให้ประธานสหกรณ์ ออกมาชี้แจงการบริหารเงินออมของชาวบ้านทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับความชัดเจนจากประธานสหกรณ์แต่อย่างใด ได้แต่เพียงข้อมูลบัญชีเงินฝากที่อ้างว่าเป็นเงินของชาวบ้านจำนวน 3 บัญชี ที่หยุดการเคลื่อนไหวมาตั้งแต่ปี 2558 รวมแล้วประมาณ 6.3 ล้านบาท จากทั้งหมดที่ชาวบ้านนำฝากกับสหกรณ์คือ 7.9 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกกว่า1.6 ล้านบาทกลับไม่มีรายละเอียด ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวชาวบ้านนำฝากเพื่อต้องการใช้ในการกู้สร้างบ้านประชารัฐตามนโยบายรัฐที่ได้ดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2547 ซึ่งสร้างไปแล้วระยะแรกกว่า58หลังและยังเหลือระยะที่ 2 จำนวน305 หลังที่ยังไม่ดำเนินการสร้างบ้านแต่อย่างใด เนื่องจากทางรัฐบาลยุติโครงการ หลังมีปัญหาการบริหารเงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภคของบ้านในระยะแรก ที่ประธานสหกรณ์คนดังกล่าวเบิกมาสร้างถนน ท่อไฟและน้ำในชุมชน กว่า 14 ล้าน แต่เมื่อตรวจสอบใช้จริงไปแค่ 11 ล้านบาท เหลืออีกประมาณ 3.5 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ประธานสหกรณ์ยังไม่ได้นำมาคืน พอช.ทั้งที่มีคำสั่งให้คืนตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา ทำให้โครงการบ้านประชารัฐระยะที่ 2 จำนวนกว่า 305 หลังต้องระงับ เพราะไม่มีเงินอุดหนุนค่าสาธารณูปโภค จนกว่าประธานสหกรณ์จะนำมาคืนทั้งหมด ดังนั้น ชาวบ้านจึงกังวลว่า เงินที่ชาวบ้านนำมาออมอาจถูกโยกย้ายนำมาทดแทนเงินที่ประธานสหกรณ์ยังคงค้าง พอช. จึงอยากให้มีการแจงรายละเอียดเงินออมของชาวบ้านทั้งหมด .-สำนักข่าวไทย