วธ.จับมือ จ.เพชรบูรณ์จัด “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” หนึ่งเดียวในโลก

หอศิลป์ราชดำเนิน 4 ก.ย.-  วธ. จับมือ จ.เพชรบูรณ์จัดงาน “ประเพณีอุ้มพระดำน้ำ” หนึ่งเดียวในโลก อัญเชิญ “พระพุทธมหาธรรมราชา”จากวัดไตรภูมิแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ สืบสานประเพณีเก่าแก่กว่า 400 ปี หนุนท่องเที่ยววัฒนธรรม สร้างรายได้สู่ท้องถิ่น


ที่หอศิลป์ร่วมสมัย ราชดำเนิน นายกฤษศญพงษ์  ศิริ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานในการแถลงข่าวงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำ จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล  ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์  นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีจังหวัดเพชรบูรณ์ และ วิศัลย์ โฆษิตานนท์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ และผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมเข้าร่วม 

ปลัด วธ. กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรม ได้สนับสนุนนโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาล โดยการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ วัฒนธรรมและบริการที่มีมูลค่าสูงใน 5 ด้าน ได้แก่ อาหาร ภาพยนตร์ แฟชั่น  มวยไทยและเทศกาล ประเพณี สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพและรายได้สู่ประชาชน ชุมชนและประเทศ ปีนี้ร่วมกับ จ.เพชรบูรณ์ จัดงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำจังหวัดเพชรบูรณ์ ประจำปีพ.ศ.2560 ขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 23 กันยายน 2560 ณ วัดไตรภูมิ วัดโบสถ์ชนะมาร และพุทธอุทยานเพชบุระ จังหวัดเพชรบูรณ์  


โดยงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำของชาวเพชรบูรณ์ เป็นงานประเพณีเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะหนึ่งเดียวในโลกแสดงถึงความศรัทธาอันเปี่ยมล้นที่มีต่อพระพุทธศาสนาและเป็นการสร้างจิตสำนึกให้แก่พุทธศาสนิกชนได้น้อมนำหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามาใช้ในการดำเนินชีวิตรวมทั้งก่อให้เกิดกำลังใจในการสร้างความดีและละเว้นความชั่ว ทำให้สังคมเกิดความสงบสุข โดยถือเอาวันสารทไทย ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ของทุกปี เป็นวันประกอบพิธี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อัญเชิญ “พระพุทธมหาธรรมราชา” ที่เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองลงดำน้ำตามความเชื่อเก่าแก่ที่มีมานานกว่า 400 ปี ทั้งนี้ เชื่อกันว่าพิธีนี้จะทำให้ “น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุข” นำความสุข ความสงบร่มเย็น ทำให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดู กาล พืชผลการเกษตรอุดมสมบูรณ์ และช่วยให้ชาวเพชรบูรณ์มีความเจริญรุ่งเรืองสืบไป 

สำหรับกิจกรรมในงานประเพณีอุ้มพระดำน้ำจังหวัดเพชรบูรณ์ อาทิ พิธีกวนกระยาสารท พิธีบวงสรวงเทพยดา การแข่งขันพายเรือทวนน้ำ 18 ฝีพาย การแสดงแสง สี เสียง ตำนานอุ้มพระดำน้ำ การแสดงศิลปวัฒนธรรมและดนตรีพื้นบ้านตลาดนัดวิถีชุมชนคุณธรรม เพชรบูรณ์ และเทศกาลอาหารอร่อย 

โดยมีพิธีสำคัญ คือ การอัญเชิญ “พระพุทธมหาธรรมราชา” จากวัดไตรภูมิแห่รอบเมืองเพชรบูรณ์ในวันที่ 19 กันยายนนี้ และพิธีอุ้มพระดำน้ำในวันที่ 20 กันยายนนี้ ณ บริเวณท่าน้ำวัดโบสถ์ชนะมาร ซึ่งงานประเพณีนี้ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเผยแพร่ประเพณีศิลปวัฒนธรรมไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายทั้งระดับประเทศและระดับนานาชาติรวมถึงสนับสนุนให้เด็กเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์สืบทอดประเพณีท้องถิ่นไปสู่คนรุ่นหลัง โดยในวันเปิดงาน 19 ก.ย. จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 9 MCOT HD หมายเลข 30 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง