กรุงเทพฯ 4 ส.ค. – หนุ่มพังงาร้องสายไหมต้องรอด ถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ใช้ปืน M16 ยิงข่มขู่ เหตุเพราะแค่เตือนขับรถดีๆ ด้าน “เอกภพ” เตรียมประสาน “ผู้การฯ-ผู้ว่าฯ พังงา” ตามคดี
หนุ่มพังงาเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เนื่องจากถูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เอาปืน M16 ไล่ยิง
ผู้เสียหายเล่าว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนซ้อนรถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อน โดยเพื่อนเป็นคนขับ พอขี่รถมาถึงทางโค้ง คู่กรณีขับสวนมาและกินเลนมาฝั่งตน ตนถึงอุทานเป็นคำหยาบในภาษาใต้ แต่เป็นเพียงการสบถคำเพราะตกใจเท่านั้น พร้อมกล่าวตักเตือนคู่กรณี เพราะเห็นว่าเป็นเด็ก แต่คู่กรณีไม่พอใจจึงไปเรียกพ่อซึ่งอยู่บริเวณนั้นพอดี
เมื่อพ่อของคู่กรณีมาถึงได้ให้ลูกชายขอโทษ ตนจึงพูดเตือนอีกครั้งว่าให้ขับรถอย่างระมัดระวังต่อหน้าพ่อเด็ก ทำให้พ่อของคู่กรณีไม่พอใจ เพราะอาจจะคิดว่าตนไปสอนเขาที่เป็นผู้ใหญ่กว่า จึงทำให้เกิดปากเสียงและชกต่อยกันขึ้น และมีการใช้อาวุธมีดวิ่งไล่แทงไปจนถึงห้องพักพนักงานที่ตนพักอยู่ นอกจากนี้ฝ่ายคู่กรณียังกลับไปเอาปืน M16 ย้อนกลับมายิงปืนขู่ตนที่หน้าห้องพัก
กรณีนี้ตนแจ้งตำรวจ สภ.เกาะยาว ตั้งแต่เกิดเหตุชกต่อยกัน ซึ่งตำรวจได้เข้ามาระงับเหตุ แต่ทำได้เพียงยุติความขัดแย้งเบื้องต้น และพอมาเจอกับพ่อของเด็กคู่กรณี สิ่งแรกที่ตำรวจทำคือยกมือไหว้ขอให้ยุติเรื่อง ทั้งที่เห็นว่าพ่อของคู่กรณีถือปืน M16 อยู่ในมือ แต่กลับไม่ดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด พร้อมกับแนะนำตนให้หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย ตำรวจยังแนะนำอีกว่าให้มาขอความช่วยเหลือจากเพจสายไหมต้องรอดที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่คงช่วยอะไรไม่ได้
โดยสิ่งที่กังวลมากที่สุดในตอนนี้ตนเป็นห่วงลูก ภรรยา และครอบครัวที่ จ.พังงา เพราะคู่กรณีประกาศขู่จะเอาชีวิตตนให้ได้ ตนเดินทางมา กทม. คนเดียวด้วยความเร่งรีบ เพราะหวั่นว่าจะเกิดเรื่องร้ายขึ้น จึงไม่ได้พาภรรยาและลูกมาด้วย อีกทั้งคู่กรณียังเคยต้องคดีพยายามฆ่ามาแล้ว เนื่องจากก่อเหตุยิงคนบนเกาะ
ด้านเอกภพ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุเป็นคนในพื้นที่ที่นักการเมืองยังต้องเกรงใจ แต่ตนมองว่ามันเป็นเรื่องที่อุกอาจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และนำอาวุธสงครามมายิงข่มขู่ชาวบ้าน หลังจากนี้ตนจะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา และผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา เพื่อติดตามคดีในพื้นที่ และวันพรุ่งนี้ (5 ส.ค.) ตนจะพาผู้เสียหายไปเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานที่กระทรวงยุติธรรม.-420-สำนักข่าวไทย