กทม.29 ส.ค.- “สรยุทธ สุทัศนะจินดา” กล่าวเพียงสั้นๆ จะยื่นฎีกาต่อสู้คดี ยังยืนยันปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และเตรียมยื่นหลักทรัพย์ขอประกันตัว หลังศาลอุทธรณ์ยืนจำคุก 13 ปี 4 เดือน กับพวก คดีทุจริตค่าโฆษณา อสมท ส่วนอดีตพนักงานจัดคิวโฆษณา อสมท จำคุก 20 ปี
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บริษัท อสมท จำกัด มหาชน บริษัท ไร่ส้ม จำกัด โดย น.ส.อังคนา วัฒนมงคลศิลป์ และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัทไร่ส้ม นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการข่าวชื่อดังและกรรมการผู้จัดการบริษัทไร่ส้ม และ น.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานบริษัทไร่ส้ม เป็นจำเลย 1-4 ในความผิดฐานเป็นพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบฯ เป็นพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์กร เป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และสนับสนุนพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502
คดีนี้อัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2558 จากกรณีเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ถึง 28 เมษายน 2549 นางพิชชาภา ซึ่งเป็นพนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท ได้จัดทำคิวโฆษณารวมในรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ซึ่งก่อนออกอากาศนางพิชชาภา ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลาจากบริษัทไร่ส้ม จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และบริษัทไร่ส้มมีการจ่ายเช็ค 6 ครั้ง ให้นางพิชชาภา กว่า 700,000 บาท จากบริษัทไร่ส้ม และจำเลยร่วมเพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภา ไม่รายงานการโฆษณา ทำให้เกิดความเสียหายแก่ บมจ.อสมท โดยมีบริษัทไร่ส้ม นายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา จำเลยที่ 2-4 เป็นผู้สนับสนุนในการกระทำผิด และมอบเช็คธนาคารธนชาต สาขาพระราม 4 สั่งจ่ายเงินให้นางพิชชาภา โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธต่อสู้คดี
ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือกันแล้วเห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมานั้นชอบแล้ว จึงพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นว่า นางพิชชาภา อดีตพนักงาน อสมท มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การของรัฐ จำคุก 20 ปี ส่วนนายสรยุทธ และ น.ส.มณฑา พนักงานบริษัทไร่ส้ม มีความผิดฐานสนับสนุน จำคุก 13 ปี 4 เดือน และปรับบริษัทไร่ส้ม รวม 80,000 บาท
ศาลพิเคราะห์ในข้ออุทธรณ์กว่า 10 ประเด็น แล้วเห็นว่า นางพิชชาภาจำเลยที่ 1 เป็นผู้จัดทำคิวและทราบรายละเอียดการโฆษณาตั้งแต่แรกเป็นสามัญสำนึกในหน้าที่จะต้องทำงานเพื่อประโยชน์ของรัฐ จะอ้างว่ามีช่องว่างในการตรวจสอบไม่ได้ เมื่อมีการโฆษณาเกินต้องเสียค่าโฆษณา แต่จำเลยใช้น้ำยาลบคำผิดในใบคิวโฆษณา แม้อ้างทำไปเพราะความตกใจกลัวจะต้องรับผิด ก็เป็นข้ออ้างที่ไม่มีน้ำหนักฟังไม่ขึ้น ส่วนนายสรยุทธ อ้างเป็นกรรมการผู้จัดการจะปฏิเสธความรับผิดไม่ได้ รวมถึงอ้างตนมีประวัติและความดี เป็นคนละส่วนกับพฤติการณ์แห่งการกระทำผิดฟังไม่ขึ้น ข้อเท็จจริงแห่งคดีฟังได้ว่าจำเลยทั้งสี่กระทำความผิดหลายกรรมตามที่ศาลชั้นต้นพิพากษา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสี่ฟังไม่ขึ้น
วันนี้นายสรยุทธ เดินทางมาร่วมกับจำเลยทั้งหมด แต่ได้ขึ้นไปห้องพิจารณาโดยใช้ประตูด้านหลังศาล โดยมี น.ส.พิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ หรือไบร์ท และทีมงานรายการข่าว เดินทางให้กำลังใจด้วย ทั้งนี้ ภายหลังคำพิพากษานายสรยุทธ และพวก อยู่ระหว่างดำเนินการยื่นคำร้องเพื่อขอศาลปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างสู้คดีในชั้นฎีกา
สำหรับคดีบริษัท ไร่ส้ม และนายสรยุทธ นอกจากความผิดดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกสำนวนที่บริษัท อสมท ได้แจ้งความฐานปลอมเอกสาร จากมูลเหตุเดียวกัน ซึ่งฝ่ายจำเลยได้ต่อสู้คดีขอให้ศาลวินิจฉัยประเด็นคำฟ้องอัยการโจทก์ว่าจะเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีทุจริต ซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์เห็นว่าเป็นการฟ้องซ้ำ ศาลได้มีคำพิพากษาเด็ดขาดแล้ว สิทธิในการนำคดีมาฟ้องของอัยการโจทก์จึงระงับไปศาลให้จำหน่ายคดีปลอมเอกสารนี้ออกจากสารบบความ. – สำนักข่าวไทย