ลูกหนี้เฮ กยศ.คำนวณยอดหนี้ใหม่ลดลง 56,326 ล้านบาท

กรุงเทพฯ 18 ก.ค.-กยศ.เผยคำนวณยอดหนี้ใหม่ 3.65 ล้านบัญชี เสร็จแล้ว มีผู้กู้ 2.98 ล้านราย ได้รับประโยชน์ ทั้งยอดหนี้ลด-ได้เงินคืน-หยุดหักเงินเดือน ส่งผลยอดหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท ตรวจสอบยอดหนี้ได้ที่เว็บไซต์ กยศ. ตั้งแต่ 1 ส.ค.67 พร้อมชวนเจรจาหนี้ ปลดภาระคนค้ำประกัน


นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา และนายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ร่วมแถลงความคืบหน้าในการคำนวณยอดหนี้ใหม่ โดยกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้มีการคำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ ผู้กู้ยืมจำนวนกว่า 3.65 ล้านบัญชีเสร็จแล้ว พบว่ามีผู้กู้ยืมได้รับประโยชน์จากการคำนวณยอดหนี้ใหม่จำนวนกว่า 2.98 ล้านราย ยอดหนี้ลดลง 56,326 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้ ประกอบด้วย

  • ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ที่ต้องชำระลดลง จำนวน 2.8 ล้านราย
  • ผู้กู้ยืมที่มียอดชำระหนี้ครบถ้วนและสามารถปิดบัญชีได้ จำนวน 177,936 ราย
  • มีผู้จะได้รับเงินคืน จำนวน 177,917 ราย เป็นเงิน 2,104 ล้านบาท ซึ่งจะดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในเดือน ธ.ค.2567
  • สามารถหยุดหักเงินเดือนผ่านองค์กรนายจ้าง จำนวน 18,326 ราย

ทั้งนี้ การคำนวณยอดหนี้ใหม่ข้างต้นเป็นการคำนวณหนี้โดยไม่ใช้ระบบ “กยศ. Connect” ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 โดยได้นำรายการชำระหนี้ของผู้กู้ยืมเงินแต่ละรายที่ได้ชำระเงินคืนกองทุนฯนับแต่วันที่ครบกำหนดชำระหนี้ครั้งแรกมาคำนวณหนี้ใหม่ตัดชำระเงินต้นเฉพาะส่วนที่ครบกำหนด ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับตามลำดับ คิดดอกเบี้ยในอัตรา 1% ต่อปี และคิดเบี้ยปรับในอัตรา 0.5% ต่อปี โดยผู้กู้ยืมสามารถเข้าระบบตรวจสอบภาระหนี้ที่คำนวณใหม่ได้ที่เว็บไซต์ www.studentloan.or.th ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นต้นไป ทั้งนี้ หากผู้กู้ยืมประสงค์จะปรับโครงสร้างหนี้ กองทุนฯ จะใช้ยอดหนี้ที่ได้คำนวณใหม่นี้ในการทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้เพื่อปลดภาระผู้ค้ำประกันให้พ้นจากความรับผิด และเมื่อระบบ กยศ. Connect ปรับปรุงเสร็จสมบูรณ์แล้วยอดหนี้ทั้งหมดจะถูกปรับโดยอัตโนมัติและจะแสดงในแอปพลิเคชัน กยศ.Connect ต่อไป


ที่ผ่านมา มีผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว จำนวน 86,962 ราย โดย กยศ.ร่วมกับกรมคุ้มครองสิทธิและเสริภาพ และกรมบังคับคดี กระทรวง ยุติธรรม ลงพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ จำนวน 35 จังหวัด รวมถึงส่งจดหมาย และ SMS เพื่อเชิญชวนผู้กู้ยืมที่มีถูมิลำเนาในแต่ละจังหวัดเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ และมีห้อง LINE บัญชีทางการ กยศ.ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อให้คำปรึกษาผู้กู้ยืม

สำหรับการดำเนินการทางคดี กยศ.ได้ชะลอการฟ้องคดี 262,954 ราย เป็นเงิน 26,158 ล้านบาท งดการบังคับคดี 160,486 ราย เป็นเงิน 14,462 ล้านบาท ขอขยายระยะเวลาบังคับคดี 175,915 ราย เป็นเงิน 23,557 ล้านบาท ของดการขายทอดตลาด 178,263 ราย เป็นเงิน 41,590 ล้านบาท และมีหนังสือถึงสำนักงานทนายความทุกแห่งให้งดการบังคับคดี 391 แห่ง. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง