ตลท.-กอช.-กยศ.​ ยกระดับ​ความรู้​ทางการ​เงินเป็น​ปี​ที่​ 7

กรุงเทพฯ​ 2 ก.ย.​ – ตลาดหลักทรัพย์ฯ ลงนาม​ MOU กับ กอช. และ กยศ.​เดินหน้าส่งเสริมความรู้การวางแผนการเงิน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 หวังยกระดับให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดี คาดองค์ความรู้ทางการเงินของตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเข้าถึงสมาชิก กอช. และ กยศ.รวมกว่า 2.5 ล้านคนทั่วประเทศต่อปี


นายศรพล ตุลยะเสถียร รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ลงนามต่ออายุ MOU ส่งเสริมความรู้ทางการเงินกับ กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 โดยการลงนาม MOU ครั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลา 4 ปี มีวัตถุประสงค์​เพื่อ​ผนึกกำลังขยายองค์ความรู้ให้เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งนักเรียน นักศึกษา คนทำงาน แรงงานนอกระบบ แรงงานอิสระ และประชาชนทั่วไปที่เป็​นสมาชิก​ กอช.​ และ ​กยศ.​ รวมกว่า 2.5 ล้านคนทั่วประเทศต่อปี​ ให้มีความรู้ทางการเงิน สามารถบริหารจัดการหนี้ วางแผนการออมได้อย่างเหมาะสม และมีเงินไว้ใช้จ่ายเพียงพอในยามเกษียณให้มีความรู้ทางการเงิน สามารถบริหารจัดการหนี้ วางแผนการออมได้อย่างเหมาะสม และมีเงินไว้ใช้จ่ายเพียงพอในยามเกษียณ

นายศรพล กล่าว​ว่า​ ปัจจุบันสังคมไทยกำลังเผชิญกับปัญหาทางการเงินที่หลากหลายเช่น ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น รวมถึง​การที่สังคมไทยกำลังก้าวสู่สังคมสูงวัยระดับสุดยอด (Super-Aged Society) แต่คนไทยส่วนใหญ่ประสบปัญหาแก่ก่อนรวย มีเงินใช้ไม่เพียงพอในวัยเกษียณ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงได้เร่งส่งเสริมความรู้ทางการเงินซึ่งเป็นทักษะสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้แก่ประชาชนทุกช่วงวัย ซึ่งเป็นแผนกลยุทธ์สำคัญและสอดรับกับแนวคิด ร่วมสร้างอนาคต เพื่อโอกาสของทุกคน ในโอกาสที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ก้าวสู่ปีที่ 50 โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้พัฒนาองค์ความรู้การเงินการลงทุนและเครื่องมือในการเรียนรู้ SET e-Learning ให้ทันสมัย มีหลักสูตรหลากหลาย อีก​ทั้ง​ปัจจุบัน​ประชาชน​และ​เยาวชน​เข้าถึง​สื่อออนไลน์​ได้​ง่าย​ขึ้น​จึงปรับรูปแบบ​บทเรียน​เพื่อ​ให้​ตอบโจทย์การเรียนรู้วิถีใหม่ พร้อมกับทำงานร่วมกับพันธมิตรในการนำความรู้ไปสู่กลุ่มเป้าหมายต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยให้มีความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว


นางสาวจารุลักษณ์ เรืองสุวรรณ เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) กล่าวว่า กอช. ขับเคลื่อนการส่งเสริมความรู้ด้านการเงินการลงทุน ตลอดจนส่งเสริมความยั่งยืนทางสังคมในด้านการสร้างหลักประกันบำนาญขั้นพื้นฐานในอนาคต ยกระดับการเรียนรู้วิถีใหม่ในโลกยุคดิจิทัล ให้คนไทยมีชีวิตทางการเงินที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ กอช. คือ “มุ่งสร้างฐานการออม ขับเคลื่อนบำนาญภาคประชาชนอย่างทั่วถึง” ซึ่งปัจจุบัน กอช. มีสมาชิกกว่า 2.6 ล้านคน สำหรับความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ และ กอช. มีมาตั้งแต่ปี 2561 ได้เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นอย่างดีในการผลักดันความรู้ความเข้าใจการวางแผนการเงินให้กับประชาชน สร้างความเข้มแข็ง และมีสุขภาพการเงินที่ดี เกษียณอายุอย่างมีคุณภาพ ผ่านการออมเงินกับ กอช. และจากความสำเร็จที่ผ่านมา จึงได้ร่วมลงนามต่ออายุ MOU เพื่อขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันในการมุ่งมั่นวางแผนการเงินให้กับคนไทย และสร้างความเข้าใจในการจัดการทางการเงิน โดยเฉพาะการวางแผนเพื่อการเกษียณ ให้เกิดความยั่งยืนและมีประสิทธิภาพต่อไป

นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) กล่าวว่า กยศ. มีความมุ่งมั่นในการส่งเสริมความรู้และทักษะด้านต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนไทย โดยเฉพาะความรู้ทางการเงินที่ทุกคนควรมี เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญและเห็นคุณค่าของเงินกู้ยืมเพื่อการศึกษา และมีความรับผิดชอบในการชำระเงินคืนกองทุน กองทุนและตลาดหลักทรัพย์ฯ มีความร่วมมืออันดีมายาวนานถึง 7 ปี ตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมา ปัจจุบันมีหลักสูตร SET e-Learning วางแผนการเงิน การลงทุน และการเป็นผู้ประกอบการจำนวนทั้งสิ้น 71 หลักสูตร พร้อมให้นักเรียนนักศึกษาผู้กู้ยืมเข้าไปเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และนำไปสะสมจำนวนชั่วโมงจิตสาธารณะตามหลักเกณฑ์ที่กองทุนกำหนด และมียอดผู้เข้าเรียนสะสมกว่า 10 ล้านครั้ง ซึ่งนับว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก มีผลเชิงประจักษ์จากจำนวนผู้เข้าเรียนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะทุกปี กองทุนคาดหวังให้ผู้กู้ยืมทุกคนได้มีความรู้ทางการเงิน เพื่อสามารถบริหารจัดการรายได้ ทรัพย์สิน และหนี้สินของตนเองได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการเตรียมความพร้อมและสร้างโอกาสให้แก่ตนเองในอนาคต ตลอดจนสามารถชำระคืนเงินกู้ยืมให้กองทุนได้ตามกำหนด เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้แก่รุ่นน้องต่อไป ความร่วมมือระหว่าง 2 องค์กรในครั้งนี้จึงเป็นการต่อยอดจากความสำเร็จเดิมด้วยการเสริมสร้างความรู้ทางการเงินสำหรับเยาวชนไทยให้เข้มแข็ง อันจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขับเคลื่อนความรู้ทางการเงินและการลงทุนให้แก่ประชาชนมายาวนานกว่า 2 ทศวรรษ โดยร่วมมือกับองค์กรพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ผ่านกิจกรรมการให้ความรู้ในรูปแบบต่างๆ อย่างเป็นระบบเช่น​ โครงการ “Happy Money, Happy Young Old ปูนนี้ (ก็) มีใช้” โครงการ “Happy Money พี่เลี้ยงการเงิน” สื่อความรู้ออนไลน์ทั้งบทความ คลิปความรู้ อินโฟกราฟิก หลักสูตรออนไลน์ SET e-Learning ครอบคลุมเนื้อหาด้านการวางแผนการเงิน การบริหารจัดการหนี้ การวางแผนเพื่อเกษียณ และการลงทุน ทั้งนี้ องค์กรที่สนใจความรู้ด้านการเงินของตลาดหลักทรัพย์ฯ สามารถดูรายละเอียดได้ที่ www.set.or.th/happymoney-happyjobbers.​ -512-สำนักข่าว​ไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แนวป้องกันน้ำท่วมฝีมือทหารช่าง ลดความรุนแรงน้ำท่วม

เชียงราย 29 ก.ค. – น้ำจากลำน้ำสายที่ทะลักเข้าท่วมชุมชนชายแดนแม่สายที่เชียงรายลดลงแล้ว แต่ทิ้งเศษซากความเสียหายไว้จำนวนมากและทำให้ชาวแม่สายอย่างน้อย 500 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน แต่ยังถือว่าไม่หนักหนาสาหัสเหมือนน้ำท่วมใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากแนวป้องกันน้ำท่วมยาวเกือบ 4 กิโลเมตร จากฝีมือของทหารช่าง.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนาม ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 29 ก.ค.-เปิดภาพทหารล้อมรั้วลวดหนามรอบปราสาทตาเหมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จากเหตุสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ในหลายพื้นที่ รวมทั้งบริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดที่มีการปะทะรุนแรง และก่อนหน้านี้มีเหตุการณ์ที่ฝ่ายกัมพูชาพยายามยั่วยุในลักษณะต่างๆ เช่น การขึ้นมาร้องเพลง และทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่แม่ทัพภาคที่ 2 ก็เชิญชวนให้คนไทยมาเที่ยวปราสาทตาเมือนธม โดยยืนยันว่าเป็นพื้นที่อธิปไตยไทย และได้รับความสนใจจากประชาชนจากทั่วสารทิศ ทั้งนี้ บริเวณปราสาทตาเมือนธม ถือเป็นพื้นที่แรกๆ ที่เกิดเหตุปะทะ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ด้วยเหตุว่ากัมพูชาพยายามจะเข้ามายึดพื้นที่ปราสาท ซึ่งเป็นจุดสูงได้เปรียบในเชิงจุดยุทธศาสตร์ ก่อนจะเกิดเหตุปะทะในหลายพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพภาคที่ 2 และนำมาสู่การเจรจาหยุดยิงโดยรัฐบาล 2 ประเทศ เมื่อวานนี้ จนกระทั่งมีการหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างฝ่ายทหารในพื้นที่ 2 ประเทศในวันนี้ และทำให้เสียงปืนสงบลง.-313.-สำนักข่าวไทย

ไทม์ไลน์หลังข้อตกลงหยุดยิง หลายพื้นที่ยังปะทะเดือด

29 ก.ค.- ย้อนดูไทม์ไลน์ เหตุปะทะในหลายพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังข้อตกลงหยุดยิงมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา ทันทีที่ข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข ถูกกำหนดในเวลาเที่ยงคืน สมรภูมิสำคัญตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปราสาทตาเมือนธม เดือดถึงขีดสุด เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการแย่งชิงพื้นที่ ยิ่ง 30 นาทีสุดท้ายก่อนเดดไลน์ ทหารหน่วยรบพิเศษของไทย เข้าปะทะ “กองกำลัง BHQ” ที่เสริมกำลังเข้ามาอย่างดุเดือด ก่อนที่ไทยจะยึดประสาทตาควายไว้ได้ก่อนถึงเส้นตายหยุดยิง แต่ปรากฏว่าเสียงปืนและระเบิด สงบลงหลังเส้นตายหยุดยิงเพียงไม่นาน ตลอดทั้งคืน ไทยยังถูกกัมพูชา ยิงยั่วยุ ยาวจนถึงเช้า ภาพนี้ทหารไทยได้ถ่ายเวลาจากนาฬิกา ในเวลา 06.29 น. ขณะได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ฝั่งกัมพูชาระดมยิงใส่ฝั่งไทยไว้เป็นหลักฐานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง พันเอกริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก ทบ. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยในพื้นที่ กองกำลังสุรนารี ว่าหลังจากมีการหยุดยิง ในเวลา 00.00 น. แล้ว พบว่าในพื้นที่ภูมะเขือ ถูกก่อกวน โดยฝ่ายทหารกัมพูชา มีการยิงปะทะตอบโต้จากทั้งสองฝ่ายจนถึงเช้า พื้นที่ซำแต มีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น จนถึงเวลา 05.30 น. เนื่องจากทหารกัมพูชาไม่ยอมหยุด […]

ทหารม้าคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา ในพื้นที่ซำแต หลังยอมจำนน

ศรีสะเกษ 29 ก.ค.-ทบ. เผยคุมตัว 18 ทหารกัมพูชา หลังทหารม้า เข้ากวาดล้างที่มั่นเขมร พื้นที่ซำแต จ.ศรีสะเกษ หลังยอมจำนน จนท.ปลดอาวุธ ยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลเคร่งครัด ก่อนจะดำเนินการตามกระบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า กองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานผลการควบคุมตัวทหารกัมพูชา จำนวน 18 นาย สืบเนื่องจากเหตุการณ์ปะทะในพื้นที่ ซำแต อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังที่ฝ่ายกัมพูชาได้ใช้อาวุธหนักและอาวุธวิถีโค้ง ยิงเข้ามาในเขตพื้นที่ของไทย ฝ่ายไทยจึงได้ใช้ หน่วยทหารม้าเฉพาะกิจเข้าทำการตอบโต้และกวาดล้างที่มั่นของฝ่ายกัมพูชา จากการปฏิบัติดังกล่าว พบมีทหารกัมพูชาจำนวนหนึ่งยอมจำนนโดยไม่มีท่าทีหรือลักษณะจะคุกคามฝ่ายไทย ทางหน่วยจึงดำเนินการปลดอาวุธและควบคุมตัวตามขั้นตอน โดยยึดถือหลักมนุษยธรรมสากลอย่างเคร่งครัด มีจำนวน 18 นาย ชั้นยศ ร้อยตรี 1 นาย, จ่าสิบโท 2 นาย, สิบเอก 12 นาย, สิบโท […]