เปิดกระบวนการอุทธรณ์คำพิพากษา “ยิ่งลักษณ์”

กทม. 24 ส.ค. – ในช่วงรอยต่อของกฎหมาย วิธีพิจารณาคดีอาญานักการเมืองฉบับใหม่และฉบับเก่า มีความแตกต่างกัน ส่งผลต่อการพิจารณาคดีความอย่างไร 


การพิจารณาคดีรับจำนำข้าวได้เข้าสู่กระบวนการสุดท้ายแล้วคือ การอ่านคำพิพากษาของศาลในวันพรุ่งนี้ (25 ส.ค.) หลังศาลประทับรับฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อ 19 มีนาคม 2558 ในความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปล่อยปละละเลยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว จนก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ โดยตลอด 2 ปีเศษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องวิ่งขึ้น-ลงศาลถึง 26 นัด เนื่องจากศาลกำหนดให้เข้าร่วมกระบวนการไต่สวนพยานทุกนัดตั้งแต่วันแรกถึงวันสุดท้าย ไม่เช่นนั้นจะถูกสั่งถอนประกัน ปรับเงินประกัน 30 ล้านบาท ออกหมายจับ


ในระหว่างที่กฎหมายลูกว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองฉบับใหม่ยังไม่ประกาศใช้องค์คณะตุลาการศาลฎีกาจะต้องพิจารณาคดีตามรัฐธรรมนูญใหม่ โดยใช้กฎหมายเดิมประกอบ ซึ่งตามขั้นตอน หากพรุ่งนี้จำเลยไปศาลฟังคำพิพากษา องค์คณะตุลาการศาลฎีกาจะอ่านคำวินิจฉัยกลางที่ได้มาจากการประมวลความเห็นส่วนตัว โดยการพิจารณาจะมาจากพยานหลักฐานและการไต่สวนก่อนหน้านี้ โดยที่ตุลาการศาลฎีกาจะวินิจฉัยโดยยึดหลักของกฎหมาย หากตัดสินว่าผิด จำเลยมีสิทธิอุทธรณ์ได้ในทุกกรณีตามรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานใหม่เหมือนในอดีต โดยมีระยะเวลาในการยื่นอุทรณ์ 30 วัน 


แต่ทันทีที่กฎหมายฉบับใหม่มีผลบังคับใช้ จะยิ่งทำให้การอุทธรณ์เป็นไปได้ชัดขึ้น ทั้งโจทก์และจำเลย และเมื่ออุทธรณ์ได้ทุกกรณีก็แสดงว่าจำเลยมีสิทธิ์ขอประกันได้ทันที หากมีโทษจำคุก แต่อำนาจในการวินิจฉัยว่าจะให้ประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับศาล

ในกรณีที่จำเลยไม่มาศาล ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของตุลาการว่าจะอ่านคำพิพากษาหรือไม่ โดยศาลอาจพิจารณาจากเหตุผลที่จำเลยอ้าง และหากเห็นว่ามีพฤติกรรมส่อว่าจะหลบหนี จะต้องออกหมายจับมาดำเนินคดี แต่ทันทีที่กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ หากจำเลยจงใจหลบหนีหลังมีหมายจับ 30 วัน ก็สามารถอ่านคำพิพากษาลับหลังได้ทันที และคดีนี้ก็จะหยุดนับอายุความ นั่นหมายถึงว่าจะต้องหนีไปตลอดชีวิต ทั้งนี้กรรมการร่างรัฐธรรมนูญยืนยันว่าคดีนี้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และจำเลยยังได้สิทธิ์ในการขอรื้อคดีได้ภายใน 1 ปี แต่ต้องมาปรากฏตัวต่อหน้าศาล 

ส่วนการยึดอายัดทรัพย์ ถือเป็นคดีปกครอง เป็นคนละขั้นตอนและคนละเรื่องกัน ดังนั้นผลการตัดสินไม่น่าจะผูกพันกัน 

นับจากนี้ไปจะเหลือเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่จะต้องนับถอยหลังรอติดตามว่าจะเป็นอย่างไร จำเลยจะมาศาลครบหรือไม่ ผลการวินิจฉัยกลางจะออกมาอย่างไร นั่นหมายถึงอนาคตทางการเมืองของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ตามรัฐธรรมนูญใหม่ด้วย . – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่